ชีวิตหลังแขวนสตั๊ด ตั้งใจซ้อม และวางตัวไม่กลัวใครในสนามซ้อม

ชีวิตหลังแขวนสตั๊ด เขาจบอาชีพค้าแข้งแบบไม่น่าประทับใจนัก แต่ทุกวันนี้เขาสุขสบายด้วยรถซูเปอร์
คาร์ และบ้านพักราคาแพงระยับที่อเมริกาที่มีเพื่อน บ้านเป็นเซเลบริตี้คนดังนี่คือเรื่องราวของ โธมัสกรา เวอเซ่น
หมาบ้าของชาวเอฟเวอร์โตเนี่ยน ที่ว่ากันว่าตอนนี้หลังจากเลิกเล่นเขามีเงินในกระเป๋าให้ใช้จ่ายมากกว่า 4 พัน
ล้านบาท เพราะอาชีพหลังจากแขวนสตั๊ดเขาโกนหัวเพื่อให้คนอื่นกลัวและสร้างความน่าเกรงขาม เขาชี้หน้าสั่ง
ให้ โรบินโญ่ ตั้งใจซ้อม และวางตัวไม่กลัวใครในสนามซ้อมของ เรอัล มาดริด

ที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์ ระดับโลกฟุตบอลอังกฤษช่วงยุค 90 ต่อยุค 2000 นั้นถือเป็นยุคสุดท้ายที่นักเตะ
ประเภทเตะเป็นเตะหวด เป็นหวดได้รับความนิยม และมีชื่อเสียงหลายคน นักเตะประเภทนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า
“ฮาร์ดแมน” หน้าที่หลักในสนามฟุตบอล คือ เข้าปะทะคู่ต่อสู้หนักหน่วง ไล่เตะขาคน เสียบสกัดแบบไม่ไว้
หน้าใคร เพื่อตัดเกม ทำลายจังหวะคู่ต่อสู้

ยุคนั้นแฟนแต่ละทีมล้วนมีฮาร์ด แมนในดวงใจของตัวเอง แมนฯ ยูไนเต็ด มี รอย คีน, ลีดส์ มี อัลฟ์ อิงเก้
ฮาลันด์, เชลซี มี เดนนิส ไวส์, อาร์เซน่อล มี ปาทริค วิเอร่า และแน่นอนสำหรับหนึ่งในกองกลางฮาร์ดแมน
ยุคนั้นที่มีภาพลักษณ์ชัดเจน ตั้งแต่สไตล์การเล่นไปจนถึงหน้าตาท่าทางคงหนีไม่พ้น โธมัสกราเวอ เซ่นดาว
เตะหัวโล้นจากเอฟเวอร์ ตันที่ขึ้นชื่อว่าเป็นฮาร์ดแมนที่ถึงไหน

ถึงกันเสมอมาจุดเด่นของกราเวอ เซ่นชัดเจนกว่านักเตะที่กล่าวมาก่อนหน้าที่จะเอ่ยชื่อเขา เนื่องจากเมื่อฟุต
บอลเข้าสู่ยุคใหม่ ยุคที่ความรุนแรงไม่ใช่ความเท่ และทักษะฟุตบอลคือความสำคัญที่มีมากกว่า ทำให้นักเตะ
อย่าง คีน, วิเอร่า, ฮาลันด์ หรือฮาร์ดแมนคนอื่นๆ เริ่มออกไปค้าแข้งหากินในลีกอื่น รวมถึงแขวนสตั๊ดไป
มีเพียงแค่กรา เวอเซ่นที่อยู่โยงกับเอฟ เวอร์ตันเท่านั้น

ชีวิตหลังแขวนสตั๊ด

ที่ถือเป็นฮาร์ดแมนผู้ถือกฎในใจเสมอว่า “หนักได้แต่ต้องเนียนด้วย” เรื่องทุกอย่างเริ่มขึ้นในช่วงปี 2000 ใน
ขณะที่ทีมใหญ่เลือกลดบทบาทฮาร์ดแมนออกจากทีม กลับกลายเป็นเอฟ เวอร์ตันที่ซื้อตัวกองกลางชาวเดน
มาร์กมาจาก ฮัมบูร์ก โดยคนซื้อคือ วอลเตอร์ สมิธ กุนซือลายครามที่พอจะเรียกว่าโค้ชหัวโบราณก็ไม่ขัดเขิน
นักกราเวอ เซ่นเข้ามาและถูก วอลเตอร์ สมิธ สอนให้รู้ว่าการเล่นให้กับทีมในอังกฤษ

โดยเฉพาะทีมเก่าแก่อย่างเอฟเวอร์ ตันนั้น สิ่งสำคัญไม่แพ้ฝีเท้าคือนักเตะของทีมต้องลงเล่นด้วยความดุดัน
สู้เพื่อแฟนบอลที่เป็นคนท้องถิ่น และมีคาแร็คเตอร์ที่แสดงถึงความแข็งแกร่งไม่กลัวใครของชาวเมือง ลิเวอร์
พูล”ผมได้คาแร็คเตอร์นั้นมาจาก สมิธ คนที่รู้จักผมดีที่สุด เขาบอกผมว่าเมื่อมาอยู่ที่นี่ รอบตัวคุณจะมีแต่คน
จริงและคนดีๆ ดังนั้น สิ่งเดียวที่ผมจะตอบแทนทุกคน

คือการลงเล่นด้วยความคิดและคาแร็คเตอร์แบบทุ่มทุกจนหยดสุดท้าย ทำให้ดีที่สุดเพื่อทีมและสโมสรของเรา
” กรา เวอเซ่น ว่าไว้ หลังจากอยู่กับทีมได้ไม่นาน เขาก็เกิดอาการเข้าเส้น กล่าวคือฟุตบอลแบบเอฟ เวอร์ตัน
และแฟนๆที่นี่ถูกจริตของเขาเป็นอย่างมาก เขาชอบบทบาทที่ได้พุ่งสไลด์ใส่คู่แข่ง กดดันกรรมการ เข้าปะทะ
แบบบ้าคลั่งและยิงประตูให้แฟนบอลเรียกชื่อ ดูบอลสด

เขาพร้อมรับบทบาทฮาร์ดแมนแบบ เต็มใจแม้ใครจะมองเป็นเรื่องล้าหลัง

เขาโกนหัวทั้งหมดเพื่อให้ตัวเองดูดุดันยิ่งขึ้น เล่นบอลด้วยเสียงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตะโกนเพื่อกระตุ้น
เพื่อนร่วมทีมหรือข่มขวัญคู่แข่งและกรรมการ นั่นคือสิ่งที่กราเวอ เซ่นเป็นและภูมิใจที่ทำได้ทำหน้าที่ตรงนั้น
“พวกเราพูดกันในห้องแต่งตัวประจำ ว่าทุกวินาทีในสนามเราต้องกดดันคู่แข่งให้หมดทุกด้าน ผมเลยคิดว่า
ผมจะเล่นด้วยอิทธิพลให้มากกว่าเดิม เล่นด้วยพละกำลังที่มากกว่าเดิม

ผมพยายามเป็นคนนั้นให้ผู้จัดการทีมเห็น และผมคิดว่าผมทำมันออกมาได้ดีเลยทีเดียว” ถึงจะพูดอย่างนักเลง
แต่แท้จริงแล้วเรื่องผลงานของกรา เวอเซ่นกับเอฟ เวอร์ตันนั้นไม่มีใครต้องสงสัย ถ้าเป็นยุคปัจจุบันก็คง
ต้องเรียกเขาว่าเป็นมิดฟิลด์แบบ บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ กล่าวคือวิ่งขึ้นสุดลงสุด มีส่วนสำคัญกับทีมทั้งในเกมรุก
และเกมรับ ดังนั้น ชีวิตหลังแขวนสตั๊ด

ทุกฤดูกาลเขาจะมีทั้งประตูและแอสซิสต์บันทึกไว้ในสถิติเสมอ เขาเป็นนักเตะที่ทำเพื่อทีมและเชื่อฟังสิ่งที๋โค้ช
บอก นักเตะประเภทนี้อาจจะไม่ใช่คนสำคัญอันดับ 1 แต่ก็เป็นคนที่ทีมจะขาดไปไม่ได้เลยทีเดียวการมาที่เอฟ
เวอร์ตันทำให้ผมเป็นนักเตะที่ดีขึ้นไม่ว่าจะยุคสมิธ หรือยุค เดวิด มอยส์ พวกเขาให้ผมเล่นในตำแหน่งที่ดี ให้
ผมได้เจอแต่เพื่อนร่วมทีมที่พร้อมจะช่วยกันเต็มที่และเชื่อใจกัน

ผมสามารถหวดคู่แข่งให้mร่วงเพื่อเอาบอลมาส่งต่อให้ โทมัส ราดซินสกี้ เพราะผมรู้ว่าเมื่อเขาได้บอล เขา
สามารถจะทำอะไรๆที่ยอดเยี่ยมได้ ผมอยากจะโยนบอลเข้ากรอบเขตโทษเพราะมีกองหน้าอย่าง เควิน
แคมป์เบลล์ และ ดันแคน เฟอร์กูสัน คอยจัดการเก็บได้หมด ผมมองไปด้านริมเส้นผมเห็น เควิน คิลบาน
และผมรู้ว่าผมเชื่อใจบอลครอสของเขาได้””นี่คือเหตุผลที่ทุกคนมักจะถามผมว่า ทำไมผมจึงเป็นนักเตะที่ดี
และมีคุณภาพเหลือเชื่อในช่วงที่เล่นให้กับเอฟเวอร์ ตันผมแค่เริ่มต้น เข้าใจ

และเชื่อมั่นในคนอื่นๆ พวกเราสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน กลายเป็นว่าทีมเราสามารถปรับตัวกับฟุตบอล
สมัยใหม่ได้ดีเหลือเชื่อ”ความยอดเยี่ยมของกราเวอ เซ่นที่เอฟ เวอร์ตันคือผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง ความ
สม่ำเสมอตลอด 5 ปี ทำให้ชื่อของเขาถูกยกย่องผ่านหน้าสื่อมากขึ้น ประจวบเหมาะกับช่วงเวลาฤดูกาล
2004-05กราเวอ เซ่นสัญญากำลังจะหมด พร้อมๆกับที่ เรอัล มาดริด

ชีวิตหลังแขวนสตั๊ด

กำลังขาดแคลนมิดฟิลด์ตัวรับ เขาจึงตัดสินใจย้ายทีมครั้งสำคัญ ด้วยค่าตัว 2.5 ล้านปอนด์ ในตลาดหน้าหนาว
กราเวอ เซ่นเองก็เช่นกัน ที่นี่ไม่มีใครสนใจเขามากนัก การเป็นพี่ใหญ่สมัยกับเอฟ เวอร์ตันไม่ได้ช่วยอะไร
สไตล์ของเขาไม่ได้โดดเด่นและไม่ได้เป็นที่จดจำ อีกทั้งยังโดนถ่มถุยโดยแฟนๆในฐานะของนักเตะที่ไม่มีอะไร
ดีเลยนอกจากความรุนแรง เหนือสิ่งอื่นใดคือ เขาเองก็ไม่ชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน

เขาไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นหนึ่งเดียวกับเพื่อนร่วมทีม และหนึ่งในหลักฐานที่ชัดที่สุดคือการเถียงกับ โรบินโญ่
สตาร์ชาวบราซิล จนกระทั่งมีการวางหมัดกันอย่างเอาจริงเอาจังในสนามซ้อมทุกอย่างก็เป็นอย่างที่ บาปติสต้า
บอก ไม่มีใครเข้ากันได้เลยกับกราเวอ เซ่นวางมวยกับ โรบินโญ่ มีปากเสียงกับ เดวิด เบ็คแฮม และ
โรแบร์โต้ ชีวิตหลังแขวนสตั๊ด

คาร์ลอสนั่นคือความหมาย ของปลาเปลี่ยนน้ำที่แท้จริง และหลังจากนั้นเขาก็อยู่กับทีมได้ฤดูกาลครึ่ง ลง
สนามไป 49 เกม ยิงไป 1 ประตู นี่ไม่ใช่สถิติที่แย่ แต่เรื่องบทบาทในทีมนั้น จะบอกว่าเขาเป็นส่วนเกิน
ก็คงไม่ผิดนัก สัญญาที่แฝงเอาไว้ | แฮนด์บอล