เบื้องหลังมือสังหาร ทุกคนที่ทันดูยุคนั้นไม่มีวันลืมดีกว่าทุกอย่างแต่แพ้

เบื้องหลังมือสังหาร ลลิเยร์ จัดเต็มดังคำเขาว่าเมอร์ ฟี่กลายเป็นกำลังหลักของลิเวอร์ พูลนับตั้งแต่ฤดูกาล
1999-2000 ขณะที่เมอร์ ฟี่ก็สนองโอกาสที่ได้รับอย่างสาสม นอกจากการพัฒนาด้านฝีเท้าแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำ
ให้เมอร์ ฟี่สู้เต็มที่เพื่อ โอกาสของตัวเอง พร้อมลงสนามทุกเกม ทุกวินาที ไม่ว่าจะเจอคู่แข่งแบบไหน นั่น
เพราะว่าการเล่นให้ลิเวอร์ พูลคือความฝันของเขา

เพราะแม้จะย้ายมาจาก ครูว์ แต่เมอร์ ฟี่และครอบครัวของเขาเป็น สเกาเซอร์ พันธุ์แท้ ดังนั้นเมอร์ ฟี่จึง
ไม่ต่างจากนักเตะลูกหม้ออย่าง ไมเคิล โอเว่น, เจมี่ คาร์ราเกอร์ และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่เมื่อได้ลงสนาม
เขาไม่ได้แค่สู้เพื่อตัวเอง แต่เขาสู้เพื่อสโมสรด้วย และนักเตะ เหล่านี้คือนักเตะที่ อุลลิเยร์ ใช้งานเป็นประจำ
แม้ว่าทีมยุคนั้นจะ ซื้อนักเตะต่างชาติ เข้ามามากมายเมอร์ ฟีเล่ากับ ว่า

เบื้องหลังมือสังหาร

เมื่อถึงเกมใหญ่ ๆ หรือเกมสำคัญ ระดับชี้เป็นชี้ตาย เหล่านักเตะท้อง ถิ่นมักจะได้โอกาสลง สนามก่อนนัก
เตะต่างชาติ เพราะเรื่องของความ เข้าใจวัฒนธรรม และความกระหาย เจอร์ราร์ด ยังเด็กมากในเวลานั้น
แต่เมื่อถึงเกมใหญ่ ๆ ความห้าวของเขา ไม่เคยลดดีกรี, เจมี่ คาร์ราเกอร์ จะเหวอแค่ไหน แต่เมื่อเกม
ใหญ่มาถึง เขาจะต้องได้เล่นลงเล่น

ไม่ว่าจะตำแหน่งแบ็คขวา หรือเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ, ไมเคิล โอเว่น คือไม้เด็ดในเกมชี้ขาดผลแพ้ชนะที่ทีมขาด
ไม่ได้ และเมอร์ ฟี่เองก็เช่นกัน ผู้สร้างสรรค์เกม ตรงกลางและมีความ “นิ่ง” มากที่สุด ในทีมชุดนั้น แม้
ลิเวอร์ พูลจะมีนักเตะ สายยิงประตูดี ๆ มากมายในทีมชุดนั้น แต่สำหรับ อุลลิเยร์ มือวางอันดับ 1 ในการ
รับหน้าที่สังหาร จุดโทษต้องเป็นเมอร์ ฟี่เท่านั้น และ ดูบอลสด

เรื่องนี้ต้องถาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อริตลอดของกาลของลิ เวอร์พูลที่รู้ถึงความตายของเมอร์ ฟี่

อย่างที่สุดในยุคนั้น ไม่มีเกมไหน สำคัญไปกว่า “แดงเดือด” แม้ลิเวอร์ พูลจะเริ่มดีขึ้นในยุค อุลลิเยร์ แต่
ปีศาจแดง ในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เข้าขั้นทีมไร้เทียมทาน พวกเขาเป็นหมายเลข 1 ของเกาะ
อังกฤษเป็นเวลากว่าทศวรรษ แต่ทุกครั้งที่เจอลิเวอร์ พูลที่มีนักเตะสเกาเซอร์ และเมอร์ ฟี่ขับเคลื่อน ยู
ไนเต็ด ไม่เคยได้กินง่าย ๆ แม้พวกเขาจะเป็น ทีมต่อตามหน้าเสื่อ

ทว่าเมื่อเอาเข้าจริง เมื่อลงสนามเจอกันลิเวอร์ พูลมักจะมีพลังแฝงชนิดที่ว่า “เล่นดีอย่างเหลือเชื่อ” จน
กลายเป็นฝ่ายเอาชนะ ยูไนเต็ด ได้แบบผิดคาดบ่อย ๆ มันไม่มีเคล็ดลับอะไรทั้งนั้นแหละ (สำหรับการรับ
มือกับความกดดัน) เมื่อถึงเวลาที่ยิงก็ต้องยิง คุณไม่มีเวลาคิดมากมายขนาดนั้น ผมไม่ได้คิดไปก่อนล่วง
หน้าอะไรขนาดนั้น ผมแค่นึกเสมอว่า นี่มันท้ายครึ่งแรกแล้ว เบื้องหลังมือสังหาร

ตั้งใจยิงให้เหมือนกับที่ซ้อมมา ถ้าเราเป็นฝ่ายนำ เรามีโอกาสเป็นผู้ชนะสูงก็อย่างที่คุณเห็นนะ จุดโทษลูก
นั้นผมดูนิ่งเอาเรื่องเลยว่ามั้ย ? ผมยิงได้ดีนะ ที่จริงแล้วตอนยิงมันผิดสูตรไปนิด ผมใส่แรงมากไปหน่อย
แต่ผลที่ออกมาคือเสียบคานบน ประตูพุ่งยังไงก็ปัดไม่ได้ ประตูนี้มันนิ่ม ๆ อย่างเหลือเชื่อเลยเมอร์ ฟี่
เชื่อว่าเขามีวิธีเฉพาะตัวสำหรับการเล่นเกมใหญ่ ๆ แบบนี้ นั่นคืออย่ากลัว

และมองให้เป็นความท้าทายที่ต้องเอาชนะให้ได้เท่านั้นเอง จุดโทษในเกมเล็กหรือเกมใหญ่ก็ไม่ต่างกัน
คิดดูดี ๆ คุณมีโอกาสทำประตูได้สูงมาก ๆ จากจุดนั้น ใครมองยังไงไม่รู้ แต่ผมว่าเมื่อได้โอกาสยิงประ
ตูหวาน ๆ แบบนี้เราก็ต้องคว้าเอาไว้ ผมไม่เข้าใจเหมือนกัน สำหรับคนที่ถึงเวลาต้องยิงกลับเลือกที่จะ
หันหลังให้ ไม่มีอะไรเป็นประตูได้ ง่ายกว่าจุดโทษ

เบื้องหลังมือสังหาร

กลายเป็นหนึ่งใน คัลท์ ฮีโร่ สำหรับแฟนบอลลิเวอร์ พูลด้วยสิ่งนี้ จิตใจนักสู้ เยือกเย็นดั่งน้ำแข็งใน
เกมที่ร้อนรนเหมือนไฟนรกและทุกคนพร้อมจะทำผิดพลาด  เขาใส่ใจลงไปเต็มร้อยและตั้งเป้าที่ชัยชนะ
เสมอ ความกลัวไม่มี มีแต่ความท้าทายเท่านั้น

ถ้าพลาด ก็ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นและทำความเข้าใจว่าแค่นี้ไม่ตาย แต่ถ้าสามารถจัดการได้จนเสร็จงาน
นั่นหมายถึง “ชื่อเสียงและความยิ่งใหญ่” ที่จะเข้ามามากมาย สำหรับเมอร์ ฟี่เขายืนยันชัดเจนว่า การ
เล่นเกมใหญ่คือ การเสี่ยงที่คุ้มค่า ที่สุดแล้ว แพ้คาบ้านรัวๆแฮนด์บอล