เริ่มหนาวไหม หงส์แดงกลับมาติดเครื่องอีกรอบ ภายหลังจากเกมปัจจุบัน ลิเวอร์พูลบุกรัง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

เริ่มหนาวไหม หงส์แดงกลับมาติดเครื่องอีกรอบ ภายหลังจากเกมปัจจุบัน ลิเวอร์พูล บุกรัง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พร้อมเก็บชัยชนะไปแบบสบาย 3-1 เกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 เดือนมกราคมก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาขึ้นไปรั้งอยู่ในชั้น 3 เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว เกมนี้แชมป์เก่ามีปัญหาหนักอีกทั้งแนวรับเจ็บจำเป็นต้องใช้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

ยืนคู่กับ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ส่วนกองหน้า ซาดิโอ มาเน่ ก็โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน เจอร์เก้น คล็อปป์ฝืนใจใช้ ดิว็อค โอริกี้ โดยมี เซอร์ดาน ชากีรี่ กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

ช่วยติดต่อประสานงานเกมบุก ผลงานสำหรับการเก็บ 3 คะแนน ในแมตช์นี้ทำให้ “เดอะ เร้ดส์” กลับมาสู่ทำเนียบการลุ้นแชมป์ลีกอีกครั้ง โดยตามหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดชั้น2

เพียงแค่ 1 คะแนน รวมทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผู้นำฝูง (แข่งขันน้อยกว่า 1 แมตช์) 4 แต้มเพียงแค่นั้น ซาลาห์ คืนฟอร์มโหดเหี้ยมโคตรเพชฌฆาต คิง ออฟ อียิปต์ คนเก่งคนเดิมกลับมาแล้ว !!

จะต้องสารภาพว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ฟอร์มหายไปครู่หนึ่งใหญ่ๆในตอนที่่ผ่านมา โดยในลีกไม่สามารถที่จะทำประตูได้เลย 6 เกมต่อเนื่องกันซึ่งแน่ๆว่าย่อมมีผลต่อความเชื่อมั่น

และมั่นใจของนักฟุตบอล แม้กระนั้นเวลานี้ทุกอย่างเลิกลงแล้ว เมื่อ “บังโม” โชว์ฟอร์มดุซัดสองในเกมผลาญ เวสต์แฮมยูไนเต็ด เกมนี้ดูราวกับว่า ซาลาห์ ค่อนข้างจะสันโดษ

ด้วยเหตุว่าขาดสองคู่หูพระกาฬอย่าง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กับ ซาดิโอ มาเน่ แม้กระนั้น ดิว็อค โอริกี้ กับ เซอร์ดาน ชากีรี่ ก็สามารถทำผลงานได้เข้ากันกับ “บังโม” ถึงแม้ครึ่งแรกบางครั้ง

อาจจะฟอร์มขัดๆกันบ้าง เพราะเหตุว่าจำเป็นต้องใช้เวลาปรับจูนกัน แม้กระนั้นช่วงหลังทั้งยัง 3 คนโชว์ฟอร์มได้ดีมากๆเลยเชียว สำหรับจังหวะที่ได้ประตูแรกจะต้องชื่นชอบ

ความรู้ความเข้าใจเฉพาะบุคคลของ ซาลาห์ ที่รับบอลจาก เคอร์ติส โจนส์ และก็ใช้สายตาที่เฉียบคมกับเท้าซ้ายสุดฉมังส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย ส่วนอีกประตูมาจากการเล่นสวนกลับเร็ว

และก็ ชากีรี่ โยนบอลได้อย่างแม่นยำให้ ซาลาห์ ด้ามจับบอลอย่างเชื่องเท้าและซัดสบายๆเข้าประตู ฟอร์มของ ซาลาห์ ในเกมนี้เด่นอีกทั้งจังหวะทำประตูรวมทั้งการเล่นร่วมกับกลุ่ม

เริ่มหนาวไหม ซึ่งทำให้เห็นว่าความมั่นใจของเขากลับมาอีกรอบ ที่สำคัญในขณะนี้เจ้าตัวซัดในลีกไปแล้ว 15 ลูกนำเป็นดาวซัลโว รวมทั้งรวมประตูทุกรายการก็ตะบันไปแล้ว 21 ลูก

นั่นนับได้ว่านักเตะทำประตูมากยิ่งกว่า 20 ลูกให้ “เดอะ เร้ดส์” ได้ 4 ฤดูต่อเนื่องกัน เพราะฉะนั้นในตอนที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้ เมื่อซาลาห์ กลับมามีความเชื่อมั่นเสมือนเดิน สาวก “เดอะ ค็อป”

คงจะได้มองเห็นของดีของเด็ดดังที่เคยมองเห็นมาตลอด ส่วนแนวรับของคู่ปรปักษ์รอบคอบตัวกันให้ดีก็ตามใจ เฮนโด้-ฟิลปินส์ คู่เซนเตอร์ฟอร์มเลิศล้ำ มั่นใจว่าในเวลา แฮนด์บอล

ที่รายนามนักเตะตัวจริงของ “ลิเวอร์พูล” ออกมา สาวก “เดอะ ค็อป” คงจะขวัญหายกันพอเหมาะพอควรเพราะว่ากองหลังตัวกลาง ในเกมนี้ก็คือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ นาธาเนียล ฟิลลิปส์

ในรายของ “เฮนโด้” ทุกคนทราบดีว่าเขามีความสามารถในการเล่นของแล้ว แต่สำหรับ “แนต” น่าจะเป็นเหมือนบ่อน้ำมันให้แนวรุก “ขุนค้อน” โจมตี “เฮนโด้-ฟิลลิปส์” คือเซนเตอร์คู่ที่ 12 ของกลุ่ม

เริ่มหนาวไหม

เร็วเกินความจำเป็นที่จะเอ่ยถึงการครองแชมป์

เริ่มหนาวไหม โดยผลงานของ ฟิลลิปส์ สามารถรูดซิปปากพวกนักวิพากษ์วิจารณ์ รวมทั้งผู้ฝึกสอนคีย์บอร์ดได้อย่างยอดเยี่ยม เขาปฏิบัติภารกิจเจริญสำหรับเพื่อการต่อกรกับ มิคาอิล อันโตนิโอ

ที่ทั้งยังใหญ่อีกทั้งเร็ว ยิ่งไปกว่านี้ยังมีจังหวะการโหม่งจัดการได้อย่างยอดเยี่ยม เกมนี้ ฟิลลิปส์ อ่านเกมออกจะดีเลิศๆรวมทั้งปฏิบัติหน้าที่ได้จากที่คล็อปป์ สั่งเอาไว้ทุกๆอย่าง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นที่ไม่มีจังหวะเปิดเผย นอกนั้นยังชี้ให้เห็นถึงการเล่นที่มั่นใจ แม้ว่าจะโดนแนวรุกของ เวสต์แฮม บุกบีบคั้นหนัก ระหว่างที่ เฮนเดอร์สัน ดูบอลสด

เริ่มหนาวไหม จำต้องบอกเลยว่าเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเลิศเลอ แม้ว่าจะจำเป็นต้องลงมาปฏิบัติภารกิจเป็นกองหลังตัวกลาง แต่ว่าสามารถรับบทบาทนี้ได้อย่างเพอร์เฟกต์

ซึ่งฟอร์มแบบนี้ก็เลยไม่ใช่เรื่องแปลกที่ เจมส์ มิลเนอร์ แซว “กัปตันเฮนโด้” อาจจะโดนคล็อปป์ จับเล่นตำแหน่งนี้ยาวจนถึงแขวนเกือกเลยก็ได้ สามกำลังสำรองลงมาสร้างความไม่เหมือนให้กับเกม

ในยามที่ทีมกำลังอยู่ในตอนอึดอัดหรืออยากได้การเปลี่ยนแปลง กำลังเสริมที่อยู่ข้างสนามมีความหมายมากมายๆรวมทั้งเกมนี้ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ใช้ตัวสำรองได้อย่างคุ้มค่า

เนื่องจากว่าการเปลี่ยนตัว 3 นักเตะลงเล่น มีผลต่อชัยของกลุ่มเป็นอย่างมาก เกมรุกของ “เดอะ เร้ดส์” ค่อนข้างจะตื้อทั้งยังในครึ่งแรก และก็ยาวไปจนกระทั่งเกือบจะนาทีที่ 60

ทำให้คล็อปป์ ควรต้องมีการปรับแผนด้วยการส่ง เคอร์ติส โจนส์ ลงไปแทน เจมส์ มิลเนอร์ ซึ่งเพียงแค่แป๊บเพียงแค่นั้น เจ้าหนูดาวรุ่งวัย 20 ปีก็แผลงฤทธิ์ทำแอสซิสต์ให้ ซาลาห์

ซัดประตูขึ้นนำ ภายหลังที่ทีมนำห่าง 2-0 คล็อปป์เลือกเก็บ ชากีรี่ รวมทั้งส่ง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ลงสนามแทน ซึ่ง “บ็อกบี้” ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อเขาสามารถป่วนปั่นเกมรับของ เวสต์แฮม ได้ตลอด

แล้วก็ช่วยกลุ่มสำหรับการสร้างช่องทางทำประตูได้เรื่อย กระทั่งตอน 10 นาทีท้ายที่สุด ผู้จัดการทีมฟุตบอลเลือดด๊อยท์ช จะต้องถอด โอริกี้ ที่มีปัญหาเจ็บออก

แล้วก็ใช้งาน อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน ซึ่งก็จำต้องกล่าวว่าไม่ผิดหวังเมื่อเขาติดต่อประสานงานได้อย่างเพอร์เฟอร์ในกรอบจุดโทษกับ ฟีร์มีโน่ ก่อนที่จะสตาร์เลือดแซมบ้า

จะใจกว้างจ่ายบอลมอบให้พานให้ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ซัดประตูลำดับที่สามปิดกล่อง ทั้งผองนี้เป็นสิ่งที่กลุ่มที่มีคุณลักษณะของการเป็นแชมป์ควรจะมี ด้วยเหตุว่าในยามที่กลุ่มกำเนิดปัญหา

ไม่ว่าจะเกิดเรื่องเกมรุก หรือเกมรับ กำลังหนุนก็เลยมีความจำเป็นเป็นอย่างมากสำหรับการที่จะสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ของกลุ่มคล็อปป์ ควรจะได้รับเครดิต

สำหรับเพื่อการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ในช่วงฤดูกาลนี้นับว่าเป็นฤดูกาลที่บ้าๆสำหรับ หงส์แดง อย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องปัญหาผู้เล่นสำคัญบาดเจ็บ ถึงแม้คนไม่ใช่น้อยบางที

ก็อาจจะพูดว่าทุกๆกลุ่มก็เจอกับปัญหานี้ แต่ว่า “เดอะ เร้ดส์” ดูเหมือนจะโดนหนักกว่าชาวบ้านหลายเท่า การขาด เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กับ โจ โกเมซ ไปยาวซึ่งอาจจะไม่ได้เล่นตลอดทั้งซีซั่นนี้

ทำให้คล็อปป์ จำต้องใช้งาน ฟาบินโญ่ ยืนเซนเตอร์แบ็กชั่วครั้งคราว ร่วมกับ โฌแอล มาติป ซึ่ง มิดฟิลด์ชาวบราซิเลียน ก็ปฏิบัติภารกิจได้ดีทั้งๆที่ไม่ใช่ตำแหน่งถนัดของตน เริ่มหนาวไหม

งานนี้แฟนลิเวอร์พูล แทบลืมไปแล้วว่า ฟาบินโญ่ โดดเด่นในตำแหน่งกองกลางไม่ใช่ปราการหลัง ! ในบางเกมเขายังจำเป็นต้องเล่นร่วมกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ในตำแหน่งคู่กองหลังตัวกลาง

ในกรณีที่ มาติป มีปัญหาเจ็บ เวรกรรมยังไม่หมดเท่านั้นปัจจุบันทั้งยัง ฟาบินโญ่ กับ มาติป ดันเจ็บพร้อม ทำให้ กุนซือชาวเยอรมัน จำเป็นต้องไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการจับ “เฮนโด้”

คู่กับ ฟิลลิปส์ ซึ่งพวกเขาก็เล่นกันได้อย่างเข้ากัน จัดการเกมรุกของ เวสต์แฮม ได้เป็นอย่างดี ในส่วนของดินแดนกึ่งกลางการที่กลุ่มจะต้องขาด 2 กองกลางชั้นยอดที่จำต้องถอยไป

ยืนเป็นกองข้างหลัง ทำให้ คล็อปป์ควรจะมีการปรับโหมดให้ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ยืนเป็นโฮลดิ้งกองกลางซึ่งก็ทำเป็นดีเลิศๆส่วน ติอาโก้ อัลกันตาร่า บางทีอาจจะจำเป็นต้องใช้เวลา

ปรับตัวอีกครู่หนึ่ง กระนั้นผลงานโดยรวมของเขาก็ยังนับว่าถูกใจ นอกจากนั้นการสลับใช้งานระหว่าง เจมส์ มิลเนอร์ กับ เคอร์ติส โจนส์ ก็ถือว่าเหมาะมาก ในส่วนของแนวรุกปัจจุบัน

ซาดิโอ มาเน่ โดนโรคเดี้ยงโจมตี ในช่วงเวลาที่ ฟีร์มีโน่ ถูกดร็อปเป็นสำรอง รวมทั้งคล็อปป์ เลือกใช้งาน ชากีรี่ กับ โอริกี้ โดยทั้งสองก็ทำผลงานได้ดีเลิศ ลองนึกดูตามใจว่าถ้า ลิเวอร์พูล

เริ่มหนาวไหม ชุดพิการแบบงี้ไม่ได้อยู่ในมือของชายชื่อ เจอร์เก้น คล็อปป์ผลงานของพวกเขาอาจจะมิได้ขึ้นมาอยู่ในชั้น 3 ของตารางฤดูกาลนี้แน่ๆ การไล่ล่าของแชมป์เก่ากลับมาแล้ว

เทศกาลคริสต์มาสพูดยาวมาจนกระทั่งแทบสิ้นเดือนม.ค. ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยเริ่มมีความคิดว่า หงส์แดง กำลังจะหลุดเส้นทางโคจรสำหรับการปกป้องแชมป์พรีเมียร์ลีก

เหตุเพราะพวกเขาสะกดคำว่าชนะในลีกไม่เป็นเลย 5เกมต่อเนื่องกันพร้อมทั้งยิงได้เพียงแค่ประตูเดียวแค่นั้น อย่างไรก็ดีเมื่อถึงจุดต่ำสุดทั้งหมดทุกอย่างจะเบาๆดียิ่งขึ้น แล้วก็สิ่งที่สาวก “เดอะ ค็อป”

เฝ้ารอก็มาเร็วกว่าที่คาดหมายเมื่อพวกเขาสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมบุกกรุงลอนดอน ไล่ต้อน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3-1 เมื่อฟอร์มเริ่มเข้าที่เข้าทางถึงแม้ว่าจะมีปัญหา

นักฟุตบอลเจ็บเยอะแยะ ก็ไม่มีผลต่อระบบของคล็อปป์ ด้วยเหตุว่าพวกเขายังคงเล่นได้ตามแท็กติกที่ “เจ้านาย” วางเอาไว้ได้ดีเยี่ยม ทำให้สามารถบุกเมืองหลวงผู้ดี เก็บ 3แต้ม

ในเกมสอยเวสต์แฮม เว้นแต่ผลงานที่สุดยอดแล้ว พวกเขายังมีความเองเนื่องจากว่ากลุ่มที่มีชั้นอยู่เหนือกว่าอีกทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมทั้ง เลสเตอร์ซิตี้

จำเป็นต้องอยู่ในตอนสะดุดขาตนเองด้วยเหมือนกันทำให้ขณะนี้ “ลิเวอร์พูล” สยายปีกขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ตามหลัง “ผีแดง” อันดับ 2 เพียงแค่แต้มเดียว แล้วก็ตาม แมนเชสเตอร์ซิตี้

ซึ่งแข่งขันน้อยกว่า 1 แมตช์ หัวหน้าฝูง 4 คะแนนแค่นั้น แน่ๆว่ายังเร็วเกินความจำเป็นที่จะเอ่ยถึงการครองแชมป์ แต่ว่าด้วยฟอร์มที่เบาๆคืนกลับมาของ หงส์แดง เผลอๆ ด้าน

ในอาทิตย์แรกของกุมภาพันธ์ ชั้นในตารางลีก อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการอเปลี่ยนครั้งสำคัญก็ได้ เข้าใจแล้ว “หนาว” ไหมละ !!! เฉียดฉิว