เป็นผู้เล่นคนสำคัญ การได้มองเห็นแฟนบอลเดินเข้าไปในสนามเวมบลีย์ เมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

เป็นผู้เล่นคนสำคัญ นับว่าเป็นสัญญาณดีอีกระดับหนึ่งสำหรับคอลูกหนังที่กำลังจะได้มองเห็นบรรยากาศเดิมๆสำหรับในการเชียร์บอล ด้วยเหตุว่าในแมตช์นี้มีผู้ชมได้รับอนุญาตให้เข้าไปสัมผัสเกมแบบใหม่ๆปริมาณ 8,000 ราย แมตช์ระหว่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ ปะทะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ นับว่าเป็นเกมลำดับที่สองที่ มีคอลูกหนังได้รับอนุญาตให้เข้าไปดูเกมในสนาม

โดยก่อนหน้าที่ผ่านมาเป็นแมตช์ที่ เลสเตอร์ซิตี้ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ในศึกเอฟเอคัพ เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน สำหรับเกมที่ “จิ้งจอกสยาม” ทะลุเข้าไปเล่นในรอบชิงแชมป์ มีคู่รักบอลเข้าชมปริมาณ 4,000 คน แม้กระนั้นในเกมนี้มีคนรักบอลมากมายถึ 8,000 ราย หรือเกือบจะ 10 เปอร์เซนต์ของปริมาตรของสนามทั้งปวง

โดยนี่นับว่าเป็นปริมาณผู้ชมที่สูงที่สุดตามมาตรการของรัฐบาลอังกฤษที่อนุญาตให้เข้าชมเกมสำหรับกีฬาที่เล่นกลางแจ้ง ตั้งแต่แมื่อที่เกิดการระบาดของเชื้อไวรันมรณะตอนต้นมี.ค. 2020 แมตช์นี้แฟนบอล สเปอร์ส กับ “เรือใบสีฟ้า” ได้ตั๋วไปฝั่งละ 2,000 ใบ ส่วนอีก 4,000 ใบ จะแบ่งให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอังกฤษ (เอ็นเอชเอส) แล้วก็ผู้คนในบริเวณท้องถิ่น

โดยงานนี้แฟนบอลที่อายุต่ำลงยิ่งกว่า 18 ปีมิได้รับอนุญาตให้เข้าไปในสนาม ที่สำคัญผู้ที่จะได้เข้าไปจะต้องมีการตรวจค้นเชื้อโควิด-19 ในตอน 1 วันก่อนเกมนัดหมายชิงด้วย และก็จะต้องมีหนังสือรับรองการฉีดยาต้านทานเชื้อมรณะด้วย แฮนด์บอล

ภายหลังจากเกมนัดหมายชิงถ้วยใบเล็กเมืองผู้ดีแล้ว และไม่มีผลต่อประเด็นการแพร่ระบาดของเชื้อ งานนี้มีความน่าจะเป็นไปได้ว่าเกมนัดหมายชิงเอฟเอคัพ ระหว่าง เลสเตอร์ กับ เชลซี ที่สนามเวมบลีย์ วันที่ 15 พฤษภาคมนี้ บางทีก็อาจจะได้มองเห็นแฟนบอลเข้าชมเกมถึง 21,000 คนก็ได้

เป๊ป ยอดคนสมองเพชร การบรรลุผลของแมนเชสเตอร์ซิตี้ จำเป็นต้องสารภาพว่าส่วนหนึ่งส่วนใดมาจากความยอดเยี่ยมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพราะว่าตั้งแต่แมื่อที่เขาเข้ามาจับบังเหียน “เรือใบสีฟ้า” ผลงานของชมรมจัดว่ายอดเยี่ยม และก็ยกฐานะเปลี่ยนเป็นกลุ่มเข้มแข็งที่ทั้งโลกจำต้องเมื่อคร้าม

กวาร์ดิโอล่า ไม่ใช่แค่นำแมนฯซิตี้ เปลี่ยนเป็นกลุ่มจอมบุก ครอบครองเกมเหนือคู่ต่อสู้ แค่นั้น แม้กระนั้นยังมีการปรับแท็กติกให้กับแต่ละแมตช์ ซึ่งสิ่งกลุ่มนี้สามารถมองได้จากสถิติข้างหลังเกม เพราะว่าพวกเขาจะครอบครองบอลได้เหนือกว่า สร้างช่องทางได้มากกว่า ในการได้แชมป์คาราบาวคัพ

ในช่วงฤดูกาลนี้ยังส่งให้ “เป๊ป” แปลงเป็นตำนานบทใหม่ของรายการนี้ เมื่อเขาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลคนแรกที่ได้แชมป์ถ้วยใบเล็กเมืองผู้ดี 4 ยุคซ้อน แซงหน้า บ็อบ เพสลี่ย์ ตำนานกุนซือหงส์แดง ที่เคยทำเป็น 3 ยุคซ้อนในตอนระหว่างปี 1981-1984

นอกเหนือจากนั้นเขายังเป็นนายใหญ่ชาวสแปนิชซึ่งสามารถยกโทรฟี่ใบนี้ 4 ครั้งเสมอกันกับ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน, โชเซ่ มูรินโญ่ รวมทั้ง ไบรอัน คลัฟ รวมทั้งยังนำแมนเชสเตอร์ซิตี้ เป็นแชมป์ยุคที่ 8 พอๆกับ หงส์แดง ด้วย แม้นับรวมโทรฟี้นับจากก้าวขึ้นมาคุม บาร์เซโลน่า ไปพบความท้ากับ บาเยิร์น มิวนิค รวมทั้งบุกมาสร้างตำนาน บนถิ่นอังกฤษร่วมกับแมนฯซิตี้ ในตอนนี้ เป๊ป สะสมการบรรลุผลไปแล้ว 30 รายการในวัยเพียงแค่ 50 ปีเพียงแค่นั้น !!

เป็นผู้เล่นคนสำคัญ ควรได้แชมป์ด้วยประการทั้งปวง

เป็นผู้เล่นคนสำคัญ ก่อนเกมนัดหมายชิงคาราบาวคัพ ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยฟันธงแบบไม่ต้องคิดมากว่า แมนฯซิตี้เหนือกว่า สเปอร์ส ทุกกระบวนท่าไล่ตั้งแต่ซุ้มม้านั่งสำรอง, ผู้เล่นตัวจริง ไปจนกระทั่งกึ๋นของผู้จัดการทีมฟุตบอล แต่ว่าก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีบางบุคคลที่รู้สึกว่า “บอลลูกกลมๆอะไรๆก็สามารถเกิดขึ้นได้”…..แม้กระนั้นพอดิบพอดีมันดันไม่เกิดขึ้น !!

โธมัส ทูเคิ่ล นายใหญ่ เชลซี ได้ทิ้งวาทะเด็ดเอาไว้ข้างหลังเกมเขี่ย “เรือใบสีฟ้า” ไม่เข้ารอบตัดเชือกเอฟเอคัพ ว่า “คุณสามารถเอาชนะกลุ่มอย่าง ซิตี้ได้ ถ้าทุกคนในกลุ่มคุณเล่นได้ท็อปฟอร์ม” ซึ่งนี่ก็แปลว่า “คุณ” จำต้องเล่นด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมเพียงแค่นั้น และก็วันนี้ “ไก่เดือยทองคำ” ไม่สามารถที่จะทำอย่างงั้นได้เลย

จะกล่าวว่า สเปอร์ส ทำไม่ได้ก็ผิดซะทีเดียว จะต้องกล่าวว่าแมนฯซิตี้ ชั่วร้ายเกินกว่าจะต่อต้านได้มากกว่า เนื่องจากว่าพวกเขาเดินหน้าเปิดเกมบุกคู่ปรปักษ์แบบไม่เกรงใจ รวมทั้งครอบครองเกมได้ตลอดตั้งแต่นาทีแรกจนกระทั่งกระทั้งนั้นเสียงนกหวีดยาวจากปากของท่านเปาพอล เทียร์นี่ย์ ดูบอลสด

ผลงานในตอน 45 นาทีแรกทุกๆคนอาจแจ่มแจ้ง แก่สายตาแมนฯซิตี้ สร้างจังหวะได้มากมายก่ายกอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก ราฮีม สเตอร์ลิง แล้วก็ ฟิล โฟเด้น ในตอนที่ เควิน เดอ บรอยน์ ยังปฏิบัติภารกิจเป็นผู้เล่นคนสำคัญขั้นเทวดาสำหรับในการผ่านบอลงาม ๆ ให้เพื่อนพ้องร่วมกลุ่มหลายต่อบ่อยมาก

ตลอด 80 กว่านาทีถ้าหาก ผู้ใดเป็นแฟนแมนฯซิตี้ อาจรู้สึกเสียวท้องน้อยเนื่องจากพวกเขาสร้างช่องทางทำแต้มได้มากมาย แต่ว่าทำผิดพลาดเองบ้าง โดนปราการหลังสเปอร์สบล็อกได้บ้าง หรือ อูโก้ โยริส ดันโชว์ฟอร์มเหนียวด้วย นั่นทำให้หลายท่านอดคิดมิได้ว่า “หรือสาวงามที่โชคจะอยู่ฝั่งสเปอร์ส”

กระนั้นอีกสองนาทีต่อมา อายเมริค ลาปอร์กต์ สวมบทวีรบุรุษกระแทกประตูชัยได้เสร็จ จำเป็นต้องพูดว่าถ้าหากว่า จอห์น สโตนส์ ไม่โดนใบแดงในเกมลีกเชือด แอสตัน วิลล่า ทำให้ถูกแบนในเกมนี้ ชื่อของจอมบุกชาวประเทศฝรั่งเศส บางทีก็อาจจะมิได้อยู่บนสกอร์กระดานก็ได้

อนาคตของ เคนหนึ่งในปัญหาที่อยู่ในหัวของทุกๆคน

เป็นผู้เล่นคนสำคัญ ข้างหลังสิ้นเสียงนกหวีดยาว หมดเวลาที่สนามเวมบลีย์ ก็คือแฮร์รี่เคน จะยังคงเลือกอยู่กับ สเปอร์ส ถัดไปหรือบางครั้งอาจจะตกลงใจโบกไม้โบกมือลาเพื่อออกไปไขว่คว้ากล่าวโทษเสร็จ มาประดับประดาตู้โชว์ ที่บ้านตนเอง เคนนับว่าเป็นลูกหม้อคุณภาพดี ของชมรม และก็มีความซื่อสัตย์กับ “ไก่เดือยทอง” มาตลอด

เพราะว่าถ้าเทียบกับสมรรถนะของเขาแน่ๆว่าเจ้าตัวได้โอกาสที่จะย้ายกลุ่มไปตั้งแต่อายุ 24-25 ปีแล้ว แต่ว่าเขาตกลงใจที่จะอยู่กับชมรมเพราะเหตุว่ามั่นใจว่าตรงนี้ยังมีอนาคตผ่องใส แต่ในก.ค.นี้ เคนจะอายุครบ 28 ปี โดยเกียรติประวัติที่เขามีร่วมกับสมาพันธ์ก็คือเหรียญรองแชมป์คาราบาวคัพ รวมทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เปลี่ยนจุดหมาย

นอกจากนี้ในตู้โชว์ของเขามีแต่ว่ารางวัลส่วนตัวดังเช่น ดาวซัลโวสูงสุดพรีเมียร์ลีก, หน้าแข้งเยี่ยมพีเอฟเอ หรือนักฟุตบอล ดีเยี่ยมที่สุดที่ ปีของสเปอร์ส ฯลฯ แน่นอนว่ารางวัลส่วนตัว เคนอยากได้อยู่แล้ว แต่ว่าในฐานะนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงว่ายอดเยี่ยมแผงหน้า เขาย่อมต้องการทรงเกียรติประวัติความเป็นมากับสมาคมมากยิ่งกว่านี้ ไม่เชื่อทดลองดูไปดู

ไคล์ วอล์คเกอร์ อดีตกาลเพื่อนฝูงร่วมขึ้นอยู่ กับที่ไปได้ดีกับแมนเชสเตอร์ซิตี้ หรือ ไมเคิ่ล คาร์ริค รุ่นพี่ที่ก้าวไปเป็นตำนาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การเป็นพระรองในแมตช์นี้ อาจจะส่งผลให้เคน นอนก้นทางความนึกคิด และก็เลือกทางได้แล้วว่าจะเอาอย่างไรข้างหลังจบฤดูกาลนี้ …..คนไหนที่เป็นแฟนบอลสเปอร์ส อาจจะจำต้องทำใจล่วงหน้าได้เลย