ระดับเดียวกัน ปอล ป็อกบา มิดฟิลด์ แมนฯยูไนเต็ดเปิดใจ

ระดับเดียวกัน ก่อนที่ทีมของตน ต้องไปเยือนลิเวอร์พูล ว่าในตอนนี้ “ปีศาจแดง” ยังไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับ “หงส์แดง” โดยบอกว่า การจะอยู่ในระดับ เดียวกับ ลิเวอร์พูลให้ได้นั้น แมนฯยูไนเต็ดก็ต้องซิวแชมป์ลีกมาครองซะก่อน

ปอล ป็อกบา กองกลางคนดังของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ยอดสโมสรแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าทีมของตน ยังไม่ได้อยู่ใน ระดับเดียวกับลิเวอร์พูล คู่อริตลอดกาล แต่อย่างใด

แมนฯยูไนเต็ดจะไปเยือนลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมนี้ ในสภาพที่พวกเขา นำเป็นจ่าฝูง ของตารางคะแนน จากการมีแต้มมากกว่า “หงส์แดง” 3 แต้ม ซึ่งบางคนถึงขั้นมองว่าทีมของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีโอกาสได้แชมป์ลีก ในซีซั่นนี้ไปครอง และคิดว่าพวกเขา ก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับลิเวอร์พูล ได้แล้วด้วย

ป็อกบา เผยว่า “เราพัฒนาขึ้นมาเยอะสุด ๆ เรายังเดินหน้า พัฒนากันอย่างต่อเนื่อง แต่เรายังเหมือนเป็นทีม ที่ยังอายุน้อยมาก ๆ อยู่ แน่นอนว่าเรา ไม่สามารถบอกได้หรอก ว่าตอนนี้เราอยู่ใน ระดับเดียวกับพวกเขาแล้ว เพราะพวกเขาเคยได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก และยังเก็บชัยชนะ ได้อย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นกว่าที่เรา จะสามารถพูดได้ อย่างเต็มปากเต็มคำ ว่าเราอยู่ในระดับเดียวกับ พวกเขาก็คือวันที่ เราได้แชมป์มาครอง” “ถ้าคุณอยากเป็นทีมที่เก่งที่สุด คุณก็ต้องเอาชนะ ทีมที่ดีที่สุดให้ได้ แฮนด์บอล

เราอยากเอาชนะแชมป์ พรีเมียร์ลีก ให้ได้ เรารู้ว่าพวกเขา เป็นทีมที่ดีมากแค่ไหน หลังจากได้ดวล กับพวกเขาตลอด ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เรารู้ถึงคุณภาพของพวกเขา และเรื่องที่ว่า พวกเขาเล่นกัน แบบไหน มันเป็นเกมที่ยากอยู่เสมอ”

“เรารู้ดีว่า การคว้าแชมป์มาครองให้ได้ มันเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก ๆ เราต้องมีสมาธิ และพยายามเป็นจ่าฝูงต่อไปให้ได้ ผมคิดว่าถ้าเรา ยังรักษาสมาธิเอาไว้ได้ เราก็มีโอกาสที่จะได้แชมป์ แต่มันก็มีหลายทีม ที่สามารถคว้าแชมป์ ไปครองได้เหมือนกัน ตอนนี้เรายัง ไม่อยู่ในระดับเดียว กับพวกเขา เรายังห่างชั้นจากพวกเขาเยอะ”

หากจะบอกว่า

ระดับเดียวกัน ป้อมปราการที่แอนฟิลด์ แต่ แมนยู ตัวพ่อเกมเยือน

เมื่อวันสถิติแบบเฮด-ทู-เฮด แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอาจจะเป็นรอง เพราะลิเวอร์พูล มักจะทำผลงานได้ดีกว่าเวลาที่ต้องลงสนามทำศึก “แดงเดือด” ในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมา

แต่อย่าลืมว่าตอนนี้สถานการณ์ของ “หงส์แดง” ไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม คนไฟแรงชาวนอร์เวย์ ทำได้เพียงแค่เสมอกับแพ้ในการปะทะกับ “หงส์แดง”

โดยสองครั้งก่อนหน้านี้ ที่มาเยือนถิ่นแอนฟิลด์ บทสรุปจบลงด้วย ความพ่ายแพ้ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตามเมื่อเช็คสถิติในการเล่นเกมเยือนของ “ปีศาจแดง” ดูบอลสด

ในฤดูกาลนี้ต้องบอกเลยว่าน่ายำเกรงสุดๆ พวกเขาสามารถเก็บได้ถึง 22 คะแนนจาก 24 แต้ม คว้าชัยชนะ 7 จาก 8 เกมเยือน รวมไปถึงบุกเสมอ “สุนัขจิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้

บททดสอบสำคัญในการเล่นนอกบ้านของ แมนฯยูไนเต็ดก็คือการบุกมายังรัง ที่เต็มไปด้วยมนต์ขลัง ของคู่อริร่วมชาติ ซึ่งมีสถิติที่โคตรสยดสยอง นั่นก็คือการที่ไม่แพ้ทีมไหนเลยนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2017

ถ้าแมนฯ ยูฯ บุกมาหยุดสถิติไร้พ่ายในแอนฟิลด์ ได้สำเร็จ คงต้องซูฮกแล้วว่าพวกเขาคือเจ้าพ่อทีมเยือน และไม่มีทีมไหนเจ๋งกว่า “เร้ด เดวิลส์” อีกแล้ว

ดูบอลสด

ความฮึกเหิมที่ต้องการประสบความสำเร็จ

หลังจากที่ต้องเป็นเบี้ยล่างให้กับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และลิเวอร์พูล มานานหลายปี ตอนนี้ต้องบอกเลย ว่าเป็นโอกาสดีมาก ๆ ที่แมนฯยูไนเต็ด จะกลับมาผงาด ครองแชมป์ลีก อีกครั้งในฤดูกาลนี้

ผู้เล่นของแมนฯยูไนเต็ด ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง กำลังฮึกเหิมสุด ๆ ยิ่งตอนนี้พวกเขาแซงลิเวอร์พูล ขึ้นตั้งรั้งจ่าฝูงพร้อมมีแต้มเหนือกว่า 3 คะแนน ทำให้เกมบุกแอนฟิลด์ สุดสัปดาห์นี้มีความสำคัญมาก ๆ กับทั้งสองทีม

หาก “ปีศาจแดง” คว้าชัยชนะกลับบ้านได้ นั่นหมายความว่า พวกเขาจะทิ้งห่างลิเวอร์พูล 6 คะแนนโอกาสที่จะได้เห็นโทรฟี่พรีเมียร์ลีก กลับไปประทับที่ตู้โชว์ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เริ่มสดใส หากจะบอกว่า

หลังห่างหายไปนานนับตั้งแต่ที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นำทีมคว้าแชมป์ส่งท้ายก่อนเกษียณตัวเองในปี 2013 ในขณะเดียวกันหากแชมป์เก่าดับซ่าทีมเยือนได้ก็จะมีแต้มเท่ากัน

แต่ผลต่างประตูได้เสีย “หงส์แดง” เหนือกว่าและได้คืนสู่บัลลังก์จ่าฝูงอีกครั้ง แถมยังเป็นการ เรียกความมั่นใจของทีมกลับคืนมา พร้อมถีบความผิดหวังใส่แข้ง “ผีแดง” ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบจนเกิดอาการเป๋ก็ได้ แต่หากทั้งสองทีมทำได้เพียงแค่เสมอกัน ระวังตัวเอาไว้ให้ดีๆ เพราะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้