คาร์ราเกอร์เตือน เจาะจง ในมุมมองของตนเองนั้น หงส์แดง ไม่สมควรจะรีบใช้งาน เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เร็วเกินความจำเป็น

คาร์ราเกอร์เตือน โดยเห็นว่าหากให้เขาพักมากยิ่งกว่านี้คงจะเกิดผลดีในระยะยาวจนกระทั่งขนาดที่ว่า ฟาน ไดค์ จะเปลี่ยนเป็นกองหลังที่เก่งที่สุดของโลกได้นาน 5-6 ปีเลย

เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกาลยอดแนวรับของ หงส์แดง สมาพันธ์ยักษ์ใหญ่ที่ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ บอกว่า “ลิเวอร์พูล” ไม่สมควรรีบใช้งาน เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ แผงหลังคนสำคัญในขั้นแรกๆของฤดู 2021-22

คาร์ราเกอร์เตือน

ฟาน ไดค์ เคยได้รับบาดเจ็บตรงเอ็นขัดหน้าข้อหัวเข่าเมื่อตอนต.ค. ปีกลาย ซึ่งเขาก็พักรักษาตัวยาวตั้งแต่นั้นมา แฮนด์บอล

แล้วก็พึ่งจะได้ลงเล่นในเกมฝึกซ้อมกับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 ก.ค. ก่อนหน้านี้ ซึ่งบางบุคคลก็เห็นว่าเขาบางทีก็อาจจะลงเล่นให้กลุ่มได้ตั้งแต่เปิดฤดูกาลนี้เลย

คาร์ราเกอร์ เปิดเผยว่า “ผมมีความคิดว่าพวกเราต้องระมัดระวังกันสักนิด ซึ่งผมรู้สึกว่า พบร์เก้น คล็อปป์ ก็จะทำอย่างนั้น ผมไม่คิดว่าพวกเราน่าจะมุ่งมาดว่า หงส์แดง จะได้แชมป์ลีกในช่วงฤดูกาลที่จะถึงนี้แบบอัตโนมัติเพียงเพราะเหตุว่า เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กลับมาเล่นให้ หงส์แดง ได้’

“เขาพึ่งผ่านการบาดเจ็บที่ชั่วร้ายมาหมาดๆแล้วก็เขาก็จำเป็นต้องทำให้แน่ใจว่าจะไม่กลับมาลงสู่สนามเร็วเหลือเกิน ถ้าหากเขากลับมามีภาวะที่ยอดเยี่ยมแล้วล่ะก็

เขาก็จะเป็นกองข้างหลังตัวกลางที่เก่งที่สุดในโลกบอลเลย รวมทั้ง หงส์แดง ก็อยากที่จะให้มันเป็นแบบงั้นในตอน 5 หรือ 6 ปีหลังจากนี้ ไม่ใช่แค่ในตอน 5 หรือ 6 อาทิตย์หลังจากนี้”

“หากเขาไม่ได้ลงเล่นครั้งแรกของฤดูมันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายจนกระทั่งขั้นโลกแตกเลย มันจะเป็นการทำให้แน่ใจว่า เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ จะฟิต 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม เพื่อที่เขาจะได้เล่นได้ยอดเยี่ยมไปอีก 5 หรือ 6 ปีหลังจากนี้

การไม่รีบใช้งานเขาบางครั้งก็อาจจะเป็นการเริ่มที่ดีสำหรับ เฟอร์กิล กระทั่งที่พวกเราจะได้มองเห็นเขาฟิต 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม แม้กระนั้นแน่ๆว่าถ้าเกิดเขามีภาวะดีอย่างนั้นเลยตั้งแต่ครั้งแรกของฤดูและก็สามารถลงเล่นต่อจากนั้นได้แล้วน่ะมันก็คงทำให้ทุกคนสุขสบายกันสุดๆ”

เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ แนวรับกลุ่มชาติเนเธอร์แลนด์ ทนไม่ได้กับข่าวสารเลียนแบบ โดยทวีตเนื้อความผ่านสื่อโซเชียล มีเดียส่วนตัว แล้วบอกชื่อถึงผู้สื่อข่าวของ เดอะ มิร์เรอร์ ดูบอลสด

คาร์ราเกอร์เตือน

เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ แผงหลังกลุ่มชาติเนเธอร์แนด์ ของ หงส์แดง โพสต์เนื้อความส่งไปถึง ไซม่อน มัลล็อค ผู้สื่อข่าวของ เดอะ ไม่ร์เรอร์ ที่เขียนข่าวสารว่าตัวเขาเป็นแกนนำต่อต้าน หลุยส์ ฟาน กัล สำหรับในการคุมกลุ่ม”อัศวินสีส้ม”

มัลล็อค เขียนข่าวสารว่า ฟาน ไดค์ เป็นแกนนำนักฟุตบอลกลุ่มชาติเนเธอร์แลนด์ต้านการแต่ง หลุยส์ ฟาน กัล กลับมาคุมกองทัพ”อัศวินสีส้ม”อีกที โดย ฟาน ไดค์ ได้นำข่าวสารนี้มารีทวีตพร้อมแคปชั่นว่าข่าวสารนี้ไร้สาระจริง

“หัวข้อนี้มันไม่เป็นความจริงสักหน่อยเดียว มันไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการที่ผู้รายงานข่าวจำเป็นต้องพูดเรื่องจริง และไม่ปั้นเรื่องอะไรขึ้นมา มันน่าละอายมากมายนะ คุณไซม่อน มัลล็อค สื่อดังเปิดเผย

ภายหลังจากได้ลงเล่นเป็นครั้งแรกในรอบราว 9 เดือนนั้น เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ปราการหลัง หงส์แดง ก็กล่าวขอบพระคุณทุกฝ่ายที่ทำให้ตนผ่านขณะที่เหนื่อยยากมาได้ พร้อมกล่าวว่าจะมุ่งหน้าดำเนินงานอย่างมากถัดไป

เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ แผงหลังคนเก่งของ หงส์แดง กล่าวขอบคุณมากทุกฝ่ายที่ให้การช่วยเหลือตนอย่างดีเยี่ยม ภายหลังที่เจ้าตัวพึ่งจะกลับมาลงในสนามได้ในเกมฝึกซ้อมที่ หงส์แดง แพ้ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 3-4 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 ก.ค. ก่อนหน้าที่ผ่านมา

ฟาน ไดค์ ได้รับบาดเจ็บตรงเจ็บเอ็นขัดหน้าข้อหัวเข่าในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อตอนต.ค. ปีกลาย ซึ่งมันก็ทำให้เขาจะต้องพักรักษาตัวต่อจากนั้นเป็นต้นมา ก่อนที่จะการรอราว 9 เดือนจะสิ้นสุดลง ตอนหลังเขาถูกแปลงลงไปแทน นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ในตอนนาทีที่ 69 ในเกมกับ แฮร์ธ่า

ตัวรุกชาวดัตช์เปิดเผยผ่าน ทวิตเตอร์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดนิยมว่า “เมื่อ 285 วันก่อนเป็นวันที่ผมเริ่มการเดินทางสำหรับการหวนกลับสู่สนาม มันชี้แจงความรู้สึกของมออกมาเป็นคำกล่าวได้ยากน่ะนะ

แม้กระนั้นสำหรับผมแล้วมันเป็นเรื่องสำคัญมากมายที่จะต้องกล่าวว่าผมรู้สึกโชคดีมากมายๆที่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ที่ดีเยี่ยมที่สุดผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อย ไม่ว่าจะเป็นศัลยแพทย์, นักกายภาพบำบัดของผม, เหล่าผู้ฝึกสอนกับสตาฟฟ์ที่อยู่ข้างเคียงผมมาตั้งแต่วันแรก,

เหล่าเพื่อนร่วมกลุ่มของผมที่มอบพลังงานให้ผมและก็ทำให้ผมยังเกิดกำลังใจสู้ถัดไปได้, เหล่าแฟนคลับที่มอบความรัก, ความช่วยเหลือ แล้วก็พลังใจให้กับผม และก็ที่สำคัญที่สุดเลยเป็นผมขอขอบคุณมากครอบครัวของผม

เนื่องจากหากไม่มี พวกเขาแล้วล่ะก็ ผมก็คงจะ ไม่มีค่าอะไรเลย ขอบพระคุณนะครับ เอาละ งานมันยัง ไม่หยุดอยู่ เท่านี้ มันพึ่งเริ่มขึ้น แค่นั้น พวกเราจะ เดินหน้าถัดไป!”