แรงไม่เกรงใจเจ้าบ้าน จิ้งจอกแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาเป็นทีมที่มีเกมรุก และสวนกลับดุดันมากแค่ไหน

แรงไม่เกรงใจเจ้าบ้าน ทัพ “เดอะ ฟ็อกซ์” ไม่ยอมแพ้ พยายามที่จะยิงประตูคืนให้ได้ ประกอบกับแนวรับของเจ้าบ้านเล่นค่อนข้างหละหลวม

1. เลสเตอร์บันเทิงได้จุดโทษมันยกร่อง

แมนเชสเตอร์ คงรู้สึกหนาวๆร้อนๆ ในการปะทะกับ เลสเตอร์ สิตี้ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นทีมที่ได้จุดลูกโทษเยอะมากๆในลีก ฉะนั้น “เรือใบสีฟ้า” ก็เลยจะต้องเล่นให้รัดกุมถ้าเกิดพวกเขาไม่อยากจะต้องพบเจอกับสถานการณ์กดดันกระทั่งส่งผลให้ทีมจำต้องเสียเปรียบ ฟอร์มกำลังดีหวัง

แม้กระนั้นทั้ง เอริก การ์เซีย, ไคล์ วอล์คเกอร์ และ แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ พลาดท่าเสียทีอย่างไม่น่าเชื่อ จนกระทั่งเป็นเหตุให้ แมนฯ ซิตี้ ต้องเสีย 3 จุดลูกโทษในแมตช์นี้ ซึ่งทำให้พวกเขากลายเป็นกลุ่มแรกในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เสียประตูจากจุดโทษเยอะที่สุดในรอบ 7 ปี

สำหรับเวลานี้กลุ่มของกุนซือแบรนแดน ร็อดเจอร์ส กลายเป็นชมรมแรกในหน้าประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สามารถยิงได้ 3 ประตูจากจุดโทษในเกมเดียว แต่แน่นอนว่าจุดโทษที่เกิดขึ้นต้องยกเครดิตให้กับทัพ “เดอะ ฟ็อกซ์” ด้วยเช่นกัน เพราะพวกเขามีการเล่นสวนกลับที่เฉียบคม รวมทั้งสามารถกดดันเกมรับ จนปั่นป่วน

2. “เรือใบ” ขาดขุมกำลังตัวหลักในการสร้างสรรค์เกม

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องพบกับปัญหา ที่จะจะต้องเร่งแก้ไข เป็นการด่วน นั่นก็คือ การที่มีขุมกำลังในการเลือกใช้งานจำกัด เนื่องจากผู้เล่นตัวหลัก เจอปัญหาเจ็บก่อกวน อีกทั้ง แบร์นาร์โด้ สิลวา, กาเบรียล เชซุส, อิลคาย กุนโดกัน, ชูเอา คันเซโล่ และ เซร์คิโอ อเกวโร่

ฉะนั้นทำให้ เป๊ป ไม่มีวันเลือกทำให้พวกเราจะต้องจับ ราฮีม สเตอร์ลิง ขึ้นไปเล่นเป็นกองหน้า ซึ่งแน่ๆว่า ปีกชาวอังกฤษ ไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เลย ในช่วงเวลาที่ โรดรี เอร์นานเดซ กับ แฟร์นันดินโญ่ ก็ประสานงานกันไม่ดีเลยในแผงมิดฟิลด์ โดยทั้งสองไม่สามารถยับยั้งเกมสวนกลับเร็วของ “เดอะ ฟ็อกซ์” ได้

ขณะเดียวกันการเล่นเกมรับลึกของ เลสเตอร์ ได้ประสิทธิภาพสูงเมื่อพบทีมที่เน้นย้ำครองบอล และก็พากเพียรเปิดเกมบุกภายหลังที่สกอร์ตกเป็นรอง ด้วยการใช้วิงแบ็กวิ่งดันขึ้นสูงเพื่อช่วยเกมรุก ส่งได้ผลให้กำเนิดพื้นที่ว่าง และก็นั่นก็เลยเป็นโอกาสทองที่ “สุนัขจิ้งจอก” จะเล่นเกมสวนกลับซึ่งก็ได้ผลอย่างชัดเจน

ดังนั้นสิ่งที่ นายใหญ่เลือดกระทิงดุ ต้องรีบทำการปรับแก้ก็คือการหาวิธีแก้ปัญหาเวลาที่เจอกับกลุ่มที่เน้นย้ำตั้งรับลึก เพราะถ้าหากพวกเขาจำเป็นต้องพบกับคู่ปรับที่เล่นในสไตล์อย่างงี้ จังหวะที่จะโดนสวนกลับแล้วก็เสียประตู หรือจุดลูกโทษราวกับในเกมกับ เลสเตอร์ สิตี้ คงจะมีค่อนข้างจะสูง แฮนด์บอล

3. เตรียมทุ่มเงินซื้อผู้เล่นเกมรับเป็นการด่วน

จะว่าไปแล้วเกมรับ ค่อนจะดีเมื่อมองจากสถิติเมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้ เพราะพวกเขาเสียไปเพียงแค่ 35 ประตูจาก 38 เกม เป็นรองแค่ “ลิเวอร์พูล” ลิเวอร์พูล แชมป์ลีกที่เสียไปเพียงแค่ 33 ประตูเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นในฤดูกาลนี้ดูเหมือนแนวรับของทัพ “สำเภาทอง” ค่อนข้างมีปัญหาเลยทีเดียว

เนื่องจากหากมองตามความจริงเกมรับของพวกเขาสร้างความเสียหายพอควร แม้ว่าจะเสียประตูเป็นรองเพียงแค่ หงส์แดง ก็ตาม แต่ว่าในแมตช์ที่ไม่น่าเสียอย่างในกับ วูล์ฟส์ และก็อีกหลายๆแมตช์ ส่งผลกระทบทำให้กลุ่มต้องเสียแชมป์ให้กับ “ลิเวอร์พูล” เมื่อฤดูที่ผ่านมา

เกมรับที่ย่ำแย่ในเกมที่ไม่ควรเสียประตูเกิดขึ้นอีกครั้งในแมตช์รับมือ “เดอะ ฟ็อกซ์” นั่นทำให้ เป๊ป จำเป็นมากที่จะจำต้องพูดคุยกับบอร์ดบริหารในการทุ่มเงินเพื่อขันแนวรับให้แข็งแกร่ง โดยเป้าหมายหลักก็คือการดึงตัว คาลิดู คูลิบาลี่ ปราการหลังจอมแกร่งจากนาโปลี ซึ่งมีค่าตัวประมาณ 70 ล้านปอนด์ (ราว 2,660 ล้านบาท) ยิ่งไปกว่านี้กลุ่มยังเล็ง รูเบน ดิอาส แนวรับ เบนฟิก้า มาเสริมเข้มแข็งด้วย

หลายคนอาจจะเห็นว่า นี่เป็นเพียงแค่ ตอนต้นซีซั่นแค่นั้น มองไม่เห็นมีอะไรจำเป็น ต้องตื่นตูม แม้กระนั้น อย่าลืมว่า ตอนนี้พวกเขาเสียไปแล้ว 6 ประตูในลีก ฉะนั้น ถ้าไม่รีบจัดแจงแก้ปัญหานี้ ได้โอกาส ที่จะกลายเป็น ปัญหาใหญ่ในอนาคต และก็มีสิทธิ์มีผลเสีย ในการลุ้นแชมป์ลีก ได้อย่างยิ่งจริงๆ

ดังนี้ นี่เป็นครั้งแรกจากการคุม 686 เกมของ กวาร์ดิโอล่า ที่กลุ่มของเขาเสียถึง 5 ประตูในเกมเดียว รวมทั้งยังเป็นครั้งแรกในรอบ 438 แมตช์ในสนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ที่พวกเขาเสียถึง 5 ประตูจากการแข่งขันทุกรายการ ดูบอลสด