อาร์เซน่อลงานเบา “ปืนใหญ่” จัดสำรองแทบยกชุดก่อนที่จะไล่ถลุงเอาชนะ เอเอฟซี วิมเบิลดัน กลุ่มจากลีกวัน ไปได้แบบไม่ยาก 3-0
อาร์เซน่อลงานเบา ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 4 ศึกคาราบาว คัพ ถัดไป เกมคาราบาว คัพ รอบสาม เมื่อคืนนี้วันพุธที่ 22 เดือนกันยายน ที่สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อาร์เซน่อลกลุ่มจากพรีเมียร์ลีก รอบที่แล้วบุกไปกระหน่ำ เวสต์บรอมวิชฯ 6-0 ผ่านเข้ามาเจอกับ เอเอฟซี วิมเบิลดัน กลุ่มจากลีกวัน ส่วนกลุ่มเยี่ยม เอเอฟซี วิมเบิลดัน ซึ่งมี มาร์ค โรบินสัน คุมกองทัพฝากความมุ่งมาดไว้ที่ อายุบ อาซซาล, ลุค แม็คคอร์มิก และก็โอลลี่ พาลเมอร์
เริ่มเกมมาได้เพียงแค่ 10 นาทีแรก กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ มาเรียกจุดลูกโทษให้เจ้าถิ่นข้างหลังโดน เนสต้า กินเนสส์-วอลเกอร์ ทำฟาวล์ในจุดโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้จุดลูกโทษโดยทันทีก่อนที่จะ อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ อาร์เซน่อลขึ้นนำ 1-0 มาร่วมทัพ
เจ้าของบ้านยังบุกโดยตลอดนาที 25 เซดริก โซอาเรส ครอสมาให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ กระแทกหลุดกรอบออกไป ก่อนที่จะอีกสองนาทีต่อมา แซมบี้ โลคองก้า จะอัดด้วยขวานอกกรอบเหินคานไปอีก ด้านหลังครึ่งแรก “ปืนใหญ่” ลุยมาอีกที
ตอนทดเจ็บนาที 45+1 นูโน่ ตาวาเรส ซัดไปติดบล็อคแนวรับกลุ่มเยี่ยม ก่อนจังหวะเตะมุมถัดมา เซดริก โซอาเรส จะเปิดมาให้ อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ กระแทกโผบินคานออกไปแบบได้เสียว
อาร์เซน่อลงานเบา จบครึ่งแรก อาร์เซน่อลขึ้นนำ เอเอฟซี วิมเบิลดัน 1-0
อาร์เซน่อลงานเบา ช่วงหลังนาที 58 ปืนใหญ่แทบได้ลุ้นเม็ดสองข้างหลัง นูโน่ ตาวาเรส ไหลให้ โธมัส ปาร์เตย์ ซัดด้วยขวาจากนอกกรอบแม้กระนั้นยังโดน ทซาเนฟ นายด่านกลุ่มเยี่ยมปัดออกไป ก่อนที่จะ มิเกล อาร์เตต้า จะถอดเอา ปาร์เตย์ ออกไปพักแล้วส่ง เอมิล สมิธ โรว์ ลงเล่นแทน
อาร์เซน่อลงานเบา นาที77 อาร์เซน่อลข้างหลังบดอยู่พักใหญ่มาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะที่ ลากาแซตต์ จิ้มบอลให้ เอมิล สมิธ โรว์ กดด้วยซ้ายเข้าไปไม่เหลือ ไอ้ปืนใหญ่ ยังเดินหน้าไล่บดสม่ำเสมอ แฮนด์บอล
รวมทั้งนาที 80 มาได้เม็ดลำดับที่สามนำห่างข้างหลัง เซดริก โซอาเรส ได้บอลทางด้านขวาก่อนครอสบอลไปให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ขัดยิงอย่างเหนือชั้นเข้าไปให้ อาร์เซน่อลนำห่าง 3-0 จบเกม อาร์เซน่อลเปิดบ้านต้อนเอาชนะ เอเอฟซี วิมเบิลดัน 3-0 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 4 ถัดไป
เวนเกอร์รับโดนจวกแบบไม่ยุติธรรมตอนโค้งสุดท้ายกับอาร์เซน่อล
อาร์เซน่อลงานเบา อาร์แซน เวนเกอร์ เจาะจง คิดว่าตนโดนตำหนิแบบไม่ยุติธรรมในช่วงท้ายๆที่อยู่กับอาร์เซน่อล แต่ว่ากล่าวว่าโดยรวมพึงใจกับสิ่งที่เคยทำให้กลุ่มแล้ว อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตกาลยอดกุนซือของอาร์เซน่อล สมาพันธ์ดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สารภาพว่าส่วนตัวแล้วมีความคิดว่าตนโดนต่อว่าแบบไม่ยุติธรรมเท่าใดนักกับผลงานที่ทำเป็นในช่วงท้ายๆที่อยู่กับ “ไอ้ปืนใหญ่”
อาร์เซน่อลงานเบา เวนเกอร์ เข้ามากุมบังเหียนอาร์เซน่อล เมื่อปี 1996 รวมทั้งเขาก็สร้างกลุ่มได้ดีเยี่ยมกระทั่งเคยแข่งขันแย่งแชมป์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อย่างใกล้เคียงเป็นระยะเวลานาน รวมทั้งเคยได้แชมป์ลีกในแบบที่ไม่แพ้คนไหนกันแน่ในลีกตลอดทั้งฤดูกาลด้วย
แม้กระนั้น เพียงพอถึงตอนหนึ่งแล้วนั้นผลงานของอาร์เซน่อล ภายใต้การควบคุมกลุ่มของ เวนเกอร์ ก็ดร็อปลงไป ก่อนที่จะท้ายที่สุดเขาจะกล่าวลากลุ่มในปี 2018 เวนเกอร์ ให้สัมภาษณ์กับ เดอะ เทเลกราฟ สื่อชั้นแนวหน้าของเมืองผู้ดีว่า “ผมมีความคิดว่าหลายๆคนติชมกันร้ายแรงไปพอใช้เกี่ยวกับช่วงท้ายๆที่ผมอยู่กับกลุ่ม ในปี 2016 พวกเราจบฤดูกาลด้วยการเป็นชั้น 2 ของลีก
ถึงแม้ฤดูกาลนั้น เลสเตอร์ จะเป็นแชมป์ แต่ว่ากลุ่มอื่นๆก็มีคะแนนน้อยกว่า เลสเตอร์ เช่นกัน ในช่วงเวลานั้น เลสเตอร์ เป็นกลุ่มเดียวที่แพ้เพียงแค่ 3 นัดหมายตลอดทั้งฤดู ส่วนในปี 2017 แม้ว่าพวกเราจะไม่ติดท็อปโฟร์เป็นหนแรกในรอบ 20 ปี แต่ว่าพวกเราก็ยังเก็บได้ตั้ง 75 คะแนน มันโชคร้ายที่ใครหลายๆคนไม่ตระหนักถึงหัวข้อนั้น พวกเราอุตส่าห์ได้แชมป์ เอฟเอ คัพ จากการชนะ เชลซี
ซึ่งเวลานี้พึ่งจะได้แชมป์ลีกมาหมาดๆในเวลานั้นพวกเขาได้โอกาสที่จะเป็นดับเบิ้ลแชมป์เลยจ๊ะ เพียงพอถึงปี 2018 พวกเราก็แพ้นัดหมายชิงแชมป์ในเกม ลีก คัพ ให้กับ (แมนเชสเตอร์) ซิตี้ รวมทั้งไม่เข้ารอบรองชนะเลิศในศึก ยูโรปา ลีก ด้วยมือของ แอตเลติโก มาดริด แม้กระนั้นพวกเราก็ไม่เข้ารอบจากการแพ้เพียงแค่ 1 ประตูเพียงแค่นั้น (สกอร์รวม 2 นัดหมายอาร์เซน่อล แพ้ 1-2)
ฟังนะ ผมทุ่มเทช่วงเวลาดีๆที่สุดในอาชีพการควบคุมกลุ่มของผมไปกับการพัฒนาสิ่งที่ผมมีความรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่จำเป็น นั่นเป็นการผลิตสนามสำหรับแข่งและก็การทดแทนสมาคม รวมทั้งกระบวนการทำให้สมาคมอยู่ในสถานะซึ่งสามารถประจันหน้าสูกับอนาคตได้ รวมทั้งแนวทางการทำให้สมาพันธ์มีความสามารถที่จะทำผลงานให้ออกมาดีในวันข้างหน้าด้วย ในที่สุดแล้วพวกเราก็เป็นข้างชนะในด้านนั้น รวมทั้งสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกภูมิใจสูงที่สุดก็คือวิธีการทำให้ชมรมอยู่ในภาวะนั้นได้”
