ซัดขึ้นนำตั้งแต่ หยุดสถิติชนะรวดของทุกรายการไว้ที่ 21 ครั้งต่อๆกัน พร้อมยึดรองผู้นำฝูง

ซัดขึ้นนำตั้งแต่ “บิ๊กแมตช์” พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ระหว่างหัวหน้าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังรับการมาเยี่ยมของเพื่อนบ้านอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลุ่มชั้น 3 โดยผลงานปัจจุบันของทั้งสองนั้น “เรือใบสีฟ้า” ไล่กระหน่ำ วูล์ฟแฮมป์ตัน 4-1 ส่วนทางฝั่ง “ผีแดง” ทำเป็นเพียงแค่เสมอกับ คริสตัล พาเลซ 0-0

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พาเรือใบสีฟ้าชนะรวดมา 21 เกมต่อเนื่องกันทุกรายการ ซัดขึ้นนำตั้งแต่ เกมนี้แทบจะไม่มีปัญหาสำหรับเพื่อการจัดกองทัพอะไรสามแนวรุกใช้ ริยาด มาห์เรซ, กาเบรียล เชซุส และก็ ราฮีม สเตอร์ลิง โดยมี เควิน เดอ บรอยน์ กัปตันกลุ่มปั้นเกมร่วมกับ อิลคาย กุนโดกัน ยังอาการรุนแรง

ส่วนทางฝั่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา บอสใหญ่ของผีแดง เสมอแบบไม่มีสกอร์ 0-0 มา 3 เกมติดทุกรายการ เกมนี้ให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กลับมาสตาร์ทเป็นตัวจริง แล้วก็มี 3 แนวรุกอย่าง แดเนี่ยล เจมส์, บรูโน่ แฟร์นันด์ส รวมทั้งมาร์คัส แรชฟอร์ด เกื้อหนุนเชื่อมเกมรุก

ซัดขึ้นนำตั้งแต่

เปิดตัวมาได้เพียงแค่ 34 วินาที “ผีแดง” มาได้ลูกที่จุดลูกโทษอย่างเร็ว หลัง กาเบรียล เชซุส ไปฟาวล์เตะด้านหลังใส่ มาร์กสิยาล ในกรอบ ผู้ตัดสินแอนโธนี่ เทย์เลอร์ ชี้เป็นจุดลูกโทษโดยทันทีโดยไม่เรียกดูวีเออาร์

ก่อนที่จะ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จะซัดติดปลายมือ เอแดร์ชอน เข้าไปใน ตอนที่ 2 ให้ แมนฯยูไนเต็ด บุกมานำเรือใบสีฟ้า 1-0 แล้วก็เป็นประตูที่ 16 ของห้องเครื่องชาวโปรตุกีสในฤดูกาลนี้ ตามหลัง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวซัลโวที่ทำไป 17 ประตูเพียงแค่ลูกเดียวเพียงแค่นั้น

เจ้าของบ้านยังตั้งตัวไม่ติด ตอน 4 แทบเสียเม็ดลำดับที่สองให้ผีแดง หลังแนวรับเจ้าถิ่นเสียการครองบอลในกรอบก่อนโดน บรูโน่ แฟร์นันด์ส แย่งบอลให้ ลุค ชอว์ อัดด้วยขวาไม่ถึง 6 หลา

แม้กระนั้นบอลพุ่งไปตรงตัว เอแดร์ชอน อย่างโชคร้าย ผู้ร่วมทีมของ เป๊ป เริ่มครอบครองบอลได้มากขึ้น ประมาณ 9 เป็นจังหวะยิงหนแรกข้างหลัง มาห์เรซ จ่ายให้ อิลคาย กุนโดกัน ซัดด้วยขวานอกกรอบแต่ว่าบอลยังไปเข้ามือ ดีน เฮนเดอร์สันรับไว้ได้สบาย

ประมาณ 16 เดอ บรอยน์ ทำเสียบอลดินแดนกึ่งกลางโดน เฟร็ด ตัดไปได้ก่อนแทงขึนหน้าให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ตั้งป้อมซัดนอกกรอบด้วยขวาแม้กระนั้นยังไม่ผ่านมือ เอแดร์ชอน ตอน 23 ราฮีม สเตอร์ลิง เลี้้ยงจี้เข้าไปในกรอบก่อนโดนขวางล้มลงไป ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไรให้เล่นต่อ ต่อมาอีกนาที โอเล็กซานเดร์ สินเชนโก้ วิ่งมาซัดด้วยซ้ายนอกกรอบเต็มข้อ บอลพุ่งเป็นจรวดสุดแรงแต่ว่าก็ยังโดน ดีน เฮนเดอร์สัน ปัดบอลออกไปได้

บอลสู้กันกึ่งกลางสนาม แต่ว่าเป็นเจ้าถิ่นที่ยังครอบครองบอลได้มากกว่า ตอน 38 ได้ช่องอีกทีจาก อิลคาย กุนโดกัน แม้กระนั้นจังหวะยิงซัดค่อยไปเข้ามือ ดีน เฮนเดอร์สัน รับไว้ได้ไม่มีปัญหา ช่วง 43 เรือใบสีฟ้ามาได้ลุ้นจากฟรีคิกไม่ถึง 30 หลาหน้ากรอบ

ก่อนเควิน เดอ บรอยน์ ปั่นผ่านกำแพงไปติดปลายมือ เฮนเดอร์สัน ออกหลัง ตอนทดเจ็บ ช่วง 45+1 สิตี้หวิดได้ลุ้นตีเสมอ ตอนนี้ ริยาด มาห์เรซ หลุดมาด้านขวาแล้วอัดเปรี้ยงบอลพุ่งเลียด หากว่า กาเบรียล เชซุส จะพุ่งมาสไลด์เข้าชาร์จแต่ว่าบอลก็พุ่งถากเสาออกไป

 

จบครึ่งแรกเรือใบทำตามหลังเพื่อนบ้านผีแดง 0-1

ช่วงหลัง เริ่มมาได้แค่ช่วง 48 เจ้าของบ้านเรือใบสีฟ้าเฉียดได้ลูกตีเสมอหลัง กาเบรียล เชซุส แปะบอลคืนหลังให้ โรดรี้ ปั่นเลยเส้น 18 หลาในกรอบบอลพุ่งไปชนสามเหลี่ยมออกข้างหลังอย่างโชคร้าย เมื่อตีเสมอมิได้ อีกสองนาทีต่อมามาเสียเม็ดลำดับที่สองให้ “ผีแดง” แฮนด์บอล

จากจังหวะที่ ดีน เฮนเดอร์สัน ออกบอลให้ ลุค ชอว์ พาบอลจากครึ่งสนามขึ้นมาเองก่อนทำชิ่งกับ แรชฟอร์ด แล้ววิ่งไปรับบอล ก่อนซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเลียดแหวกผู้เล่นเจ้าถิ่นแทงเสาไกลเข้าไปประเภทที่ เอแดร์ชอน ได้แม้กระนั้นยืนมองดูให้ แมนฯยูไนเต็ด บุกมานำห่าง 2-0

ช่วง 59 ผู้ร่วมทีมของ โซลชา สวนกลับมาอีกครั้งแล้วก็ได้ลุ้นเม็ดลำดับที่สามจากจังหวะที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดบอลไปไถลหัว ดิอ๊าซ บอลลอยโด่งไปเสาไกลถึง อ็องโตนี่ มาร์กสิยาลพุ่งกระแทกแต่ว่าน้ำหนักบอลค่อยไปก่อนเข้ามือนายด่านเรือใบ

ซัดขึ้นนำตั้งแต่

อีกนาทีถัดมา เจ้าของบ้านได้ลุ้นตีไข่แตกหลังบอลสม่ำเสมอจากลูกเตะมุม ริยาด มาห์เรซ เก็บอลได้ก่อนซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว ช่วง 69 แมนฯ ยูไนเต็ด ทิ้งโอกาสทองที่กำลังจะได้ลูกลำดับที่สามนำห่างข้างหลัง

แม็คโทมิเน่ย์เสียหลักล้มหน้ากรอบแต่ว่าบอลทะลุไปเข้าทาง มาร์กสิยาล หลุดโดดเดี่ยวเข้าไปก่อนซัดไปติดเซฟของ เอแดร์ชอน อย่างน่าผิดหวัง

ประมาณ 75 แมนฯสิตี้ ชวดได้ประตูตีไข่แตกอีก หลัง เดอ บรอยน์ จ่ายเลียดมาให้ ฟิล โฟเด้น ผู้เล่นสำรองที่เพิ่งจะลงมาซัดด้วยซ้ายหลุดกรอบไปอย่างโชคร้าย

ประมาณ 85 เจ้าถิ่นเซ็ตเกมขึ้นมาได้ลุ้นอีกรอบ ครั้งนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ครอสบอลไม่เห็นหัว วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ มาให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ขึ้นกระแทกหลุดกรอบออกไปอย่างน่าผิดหวัง ดูบอลสด

จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้คาบ้านให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 ทำให้ “เรือใบสีฟ้า” แพ้ในลีกหนแรกในรอบ 20 เกม รวมทั้งหยุดสถิติชนะ 21 ครั้งติดต่อกันทุกรายการพร้อมที่จะจัดส่งให้ “ผีแดง” ยังไม่มีแพ้นอกบ้าน พร้อมยึดรองผู้นำฝูงคืนจาก เลสเตอร์ ซิตี้ มี 54 แต้มตามหลังผู้นำฝูงเรือใบที่มี 65 แต้ม เหลือ 11 คะแนน