ดร็อปหนักหรือไม่ “ราชันชุดขาว” ของผู้จัดการทีม ซีเนดีน ซีดาน เสียหายไม่น้อยข้างหลังเปิดบ้านเจ๊า เรอัล เบติส 0-0

ดร็อปหนักหรือไม่ ยึดรองหัวหน้าฝูงเก็บเพิ่มเป็น 71 คะแนนตามหลัง ตราหมี 2 แต้มแม้กระนั้นแข่งขันมากยิ่งกว่า 1 นัดหมาย ในศึกบอล ลาลีกา ประเทศสเปน คืนวันเสาร์ก่อนหน้านี้ ศึกบอล ลา ลีกา ประเทศสเปน คู่มืดค่ำทุกวันที่ 24 เดือนเมษายน 2564 ที่สนาม อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่

“ราชันชุดขาว” รองผู้นำฝูงที่กำลังลุ้นแชมป์ เปิดบ้านต้อนรับเรอัลเบติส กลุ่มชั้น 6 25 นาทีผ่านเป็น “ราชันชุดขาว” ทำเป็นดียิ่งกว่าจากบอลทางด้านซ้ายของ คาริม เบนเซม่า แหวกเข้าจุดโทษก่อนเฉือนเข้าในให้ โรดริโก้ โกเอส ซัดหน้ากรอบ 6 หลาไปติดบล็อค บิคตอร์ รูอิซ เล็กน้อย

จากจังหวะสม่ำเสมอ เรอัลเบติสสกัดบอลไม่ขาดท้ายที่สุดเป็น คาริม เบนเซม่า ขยับมารับก่อนตั้งป้อมซัดด้วยขวาหน้ากรอบ 18 หลาติดเซฟ เคลาดิโอ บราโว่ ล้มตัวตะปปไว้ได้ทัน

ถัดมานาทีที่32 เรอัลเบติสโต้ตอบบ้างจากจังหวะของ ดีเอโก้ ไลเนซ พาบอลเข้าจุดโทษดึงแนวรับ “กษัตริย์ชุดขาว” ก่อนฝากย้อนให้ เซร์คิโอ กานาเลส หักข้อด้วยซ้ายแม้กระนั้นเสียดายยังไม่ตรงกรอบ

นาทีที่38 เรอัลมาดริดพากเพียรเร่งเครื่องจากบอลยาวทิ้งขึ้นมาให้ คาริม เบนเซม่า ใส่ขึ้นมาพักอกก่อนตวัดด้วยขวาผ่านมือ เคลาดิโอ บราโว่ โผบินผ่านคานออกไปแม้กระนั้นก็มีธงล้ำหน้าชูตามขึ้นมาแล้ว หมดครึ่งเวลาแรกเรอัลมาดริด 0 เรอัลเบติส0

เริ่มช่วงหลัง เจ้าถิ่น ออกหมัดก่อนอีกทั้งลูกยิงไกลของ มาร์โก อาเซนซิโอ รวมทั้งจังหวะซัดทางขอบเส้นฝั่งขวาของ โรดริโก้ โกเอส บอลแกว่งผ่านมือ เคลาดิโอ บราโว่ ชนคานหลุดออกข้างหลัง แฮนด์บอล

นาทีที่60 เรอัลเบติสเฉียดกลับขึ้นนำจากความรู้ความเข้าใจเฉพาะบุคคลของ บอร์ฆา อิเกลเซียส แปลกรับเรอัลมาดริด ทั้งยังแผงก่อนได้โอกาสอัดด้วยขวาแต่ว่าไม่หนีตัว ติโบลต์ กูร์กตัวส์ เซฟเอาไว้ได้ 6 นาทีถัดมาจากจังหวะหน้าจุดโทษ ลูก้า โมดริช ตวัดตามน้ำด้วยขวาบอลโค้งอ้อม แนวรับเรอัลเบติส แม้กระนั้นไปพุ่งหาตัว เคลาดิโอ บราโว่ ต่อยทิ้งออกมาดังเดิม

นาทีที่77 แฟนบอล “ราชันชุดขาว” ได้ยิ้มเมื่อ เอเด็น อาซาร์ ผู้นำกองทัพคนเก่งหายเจ็บคืนสนามเป็นตัวสำรองโดยลงมาแทนตำแหน่งของ มาร์โก อาเซนซิโอ ด้านหลังเกมนาทีที่ 80 จากลูกเตะมุมทางด้านขวา ลูก้า โมดริช ปั่นบอลเข้าจุดโทษมาตกใส่หัว เอแดร์ มิลิเตา กระแทกไปโดน มือผู้เล่นเรอัลเบติส แต่ว่าคนตัดสินใจแข็งไม่เป่าให้เป็นลูกจุดลูกโทษ ต่อไปไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกมเรอัลมาดริด0 เรอัลเบติส0

เป็นผู้เล่นคนสำคัญ

ดร็อปหนักหรือไม่ เปรียบเทียบ ผลงานมาเน่ ฤดูกาลก่อนกับฤดูนี้

ดร็อปหนักหรือไม่ ถ้าหากไม่มีเรื่องราวระดับช็อกโลกอะไรแล้วล่ะก็ นี่ก็น่าจะเป็นฤดูที่ หงส์แดง ทำคะแนนในเกม พรีเมียร์ลีก ได้ต่ำที่สุดในรอบหลายฤดูกาลก่อนหน้าที่ผ่านมา โดยในขณะนี้พวกเขาพึ่งจะทำคะแนนในลีกได้เพียงแต่ 55 ลูกเพียงแค่นั้น ทั้งๆที่ 5 ฤดูก่อนหน้าที่ผ่านมาพวกเขายิงในลีกได้ 63 ลูก (ฤดู 2015-16), 78 ประตู (ฤดู 2016-17), 84 ลูก (ฤดู 2017-18), 89 ประตู (ฤดู 2018-19) และก็ 85 ลูก (ฤดู 2019-20)

ดร็อปหนักหรือไม่ ถ้าหากถามคำถามว่าอะไรเป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้กลุ่มของที่ปรึกษา พบร์เก้น คล็อปป์ ทำคะแนนได้ลดน้อยลงถึงขั้นนี้แล้วล่ะก็ มันก็น่าจะเป็น ด้วยเหตุว่าซาดิโอมาเน่ ปีกชาวเซเนกัลยิงได้ลดน้อยลงอย่างน่าตกใจ ดูบอลสด

โดยฤดูกาลนี้เขาพึ่งยิงในลีกได้เพียงแค่ 8 ลูกแค่นั้น ตรงกันข้ามกับฤดูกาลก่อนที่จะยิงในลีกได้ถึง 18 ประตู เพื่อเป็นการมอง ว่าผลงานของมาเน่ ดร็อปลงจริงๆหรือเปล่า วันนี้พวกเราเลยมีตัวเลขเกี่ยวกับผลงานด้านเกมรุกในลีกของเขาระหว่างฤดูกาลนี้กับฤดูก่อนมาเปรียบให้มองเห็นกันไปเลย

โดยจะเป็นการอ้างอิงจาก เว็บแนวพินิจพิจารณาสถิติการเล่นโด่งดัง การเลี้ยงบอล ด้วยความเร็วที่สูง และก็การครอบครองบอล ได้อย่างแน่นแฟ้น ทำให้ฤดูกาลก่อนมาเน่ เป็นตัวอันตรายตรงขอบเส้นคนหนึ่งของ หงส์แดง โดยฤดูที่แล้วเขาสามารถเลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้ในลีกได้ถึงเฉลี่ยนัดหมายละ 2 ครั้ง แถมยังเรียกฟาวล์ได้ 1.5 ครั้งต่อเกมด้วย

ดูบอลสด

ฤดูกาลนี้มาเน่ ก็มิได้เลี้ยงบอลเข้าไป ในพื้นที่อันตรายได้มากเยอะแค่ไหนนัก

ดร็อปหนักหรือไม่ โดยเขาพึ่งพาบอลเข้าพื้นที่ในที่สุดในแนวรุกได้เพียงแค่ 61 ครั้ง ตรงกันข้ามกับฤดูกาลก่อนที่จะทำเป็นถึง 82 คราวอย่างยิ่งจริงๆ นอกเหนือจากนี้ ในช่วงฤดูกาลนี้เขาก็เลี้ยงบอลเข้ากรอบจุดโทษได้ 47 คราวด้วย ซึ่งจัดว่ายังน้อยกว่าฤดูก่อนที่จะทำเป็น 57 ครั้งร่วมกัน

การส่งบอล ฤดูที่แล้ว มาเน่มีเปอร์เซ็นต์ ผ่านบอลตรงเป้า 81.6 เปอร์เซ็นต์ จากการจ่ายบอลเฉลี่ย 31.5 ครั้งต่อเกม แต่ว่าฤดูกาลนี้เขาผ่านบอลตรงเป้าเหลือเพียงแค่ 77.4 เปอร์เซ็นต์ จากการจ่ายบอลเฉลี่ยนัดหมายละ 28.5 ครั้ง หรือก็คือทั้งๆที่ฤดูกาลก่อนเขามีจังหวะผ่านบอลมากมายกว่า แต่ว่าก็ยังผ่านบอลถูกต้องกว่าฤดูกาลนี้เลย

แม้กระนั้น ในผลงานด้านอื่นๆของการส่งบอลนั้นมันจัดว่าไม่ได้ต่างอะไรกันมากเท่าไรนัก ยกตัวอย่างเช่นฤดูกาลที่แล้วที่มีจังหวะผ่านบอลสำคัญ 1.7 ครั้งต่อเกม ก่อนที่จะฤดูนี้จะลดมานิดหน่อยจนถึงเหลือ 1.6 ครั้งต่อนัดหมาย หรือการครอสบอลเข้ามาจากข้างๆที่ทำเป็น 0.3 ครั้งต่อเกมเสมอกันในอีกทั้ง 2 ฤดูกาล เป็นผู้เล่นคนสำคัญ

การยิง ส่วนใดส่วนหนึ่งที่ทำให้ฤดูกาลที่แล้ว มาเน่ทำคะแนนใน พรีเมียร์ลีก ได้มากถึง 18 ประตู เป็นเพราะเหตุว่าเขามีเปอร์เซ็นต์ยิงตรงกรอบมากถึง 47.4 เปอร์เซ็นต์ร่วมกัน รวมทั้งถ้านำไปเทียบกับค่า “ปริมาณประตูที่น่าจะเป็น” ซึ่งเป็นการคำนวณความน่าจะเป็นของประตูจากแนวทางการยิง, ความแรงของการยิง อื่นๆอีกมากมาย

แล้วล่ะก็ ผลต่างระหว่างประตูที่ทำเป็นกับ “ปริมาณประตูที่น่าจะเป็น” ก็อยู่ที่ +4.2 หรือก็คือทำคะแนนได้มากกว่าที่ควรเป็นตั้ง 4.2 ลูก อนิจจัง ฤดูกาลนี้เขาพึ่งยิงตรงกรอบไปเพียงแต่ 38.6 เปอร์เซ็นต์แค่นั้น กล่าวได้ว่าน้อยกว่าเดิมเกือบจะ 10 เปอร์เซ็นต์อย่างยิ่งจริงๆ

แถมผลต่างระหว่างประตูที่ทำเป็นกับ “ปริมาณประตูที่น่าจะเป็น” ก็อยู่ในระดับ -5.3 เลยด้วย หรือก็คือในตอนนี้อันที่จริงแล้วเขาน่าจะยิงในลีกได้อย่างต่ำ 13 ลูก ไม่ใช่เพียงแต่ 8 ประตูอย่างในตอนนี้