แฟนๆได้ชื่นใจ ประเดิมอุ่นเครื่องเกมแรกได้ไม่สวยหรู หลังโดน ตามตีเสมอ

แฟนๆได้ชื่นใจ เกมนี้ แลมพาร์ด ขนผู้เล่นชุดใหญ่ ลงเล่นเป็นตัวจริง ดูเหมือนจะทั้งหมด โดยให้โอกาสบรรดาหน้าแข้งใหม่อีกทั้ง ฮาคิม ซิเย็ค กองกลางชาวโมร็อกโค และก็ ติโม แวร์เนอร์ กองหน้า กลุ่มชาติเยอรมัน ออกสตาร์ต เป็นตัวจริง โดยทันที! ส่วน ไบรท์ตัน ส่ง อดัม ลัลลาน่า กองกลางที่ดึงมาจาก หงส์แดง เป็นตัวจริงด้วยเหมือนกัน

แฟนๆได้ชื่นใจ

ครึ่งแรกเริ่มมาเพียงแค่ 4 นาที เชลซี ได้ประตูขึ้นนำ อย่างเร็ว จากจังหวะที่ ฮาคิม ซีเย็ค วางบอลยาวให้ คัลลัม ฮัดสัน โอดอย ในจุดโทษ! หลุดกับล้ำหน้า ก่อนที่จะ กระแทกตั้งให้ ติโม แวร์เนอร์ ได้ซัดระยะ เผาขนโล่งๆไม่เหลือ

แล้วต่อจากนั้น มีโอกาสลุ้นบ้าง ในนาที 22 เมื่อ โจเอล เวลท์มัน โยนจาก สุดเส้นข้างหลัง เข้าจุดโทษให้ เลอันโดร ทรอสซาร์ ซัดด้วยซ้าย ที่เสาแรก แม้กระนั้น บอลหลุดกรอบ ออกไปไกล หลังคว้าโล่มา

สิงน้ำเงิน เป็นข้างครองเกม ได้เหนือกว่า ได้ลุ้นประตูลำดับที่สอง จากจังหวะฟรีคิก หน้าจุดโทษ ซิเย็ค เปิดให้ แวร์เนอร์ โฉบมากระแทก ที่เสาแรก แม้กระนั้น บอลข้ามคาน ในนาที 26 ก่อนที่จะจบครึ่งแรก สิงน้ำเงิน นำอยู่ 1-0

ช่วงหลังเล่นมาได้ 4 นาที มาได้ลูก จุดลูกโทษ จากจังหวะที่ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ไปทำฟาวล์ใส่ ลูอิส ดังก์ หน้าปากประตู แต่ นีล โมเปย์ ยิงไปติดเซฟของ วิลลี่ กาบาเยโร่ ที่ลงมาเล่นแทน เกปา ในช่วงหลัง แฮนด์บอล

แฟนๆได้ชื่นใจ

นาที 57 ไบรท์ตัน หวิดได้ประตูตีเสมออีกรอบ จากจังหวะฟรีคิก เลอันโดร ทรอสซาร์ เปิดให้ อดัม เวบสเตอร์ ขึ้นโหม่งย้ำๆแม้กระนั้น บอลไปชนคาน อย่างโชคร้าย

อย่างไรก็ดี ช่วงท้ายเกมนาที 90 ได้จุดลูกโทษ ก่อนที่จะเป็น ปาสกาล กรอสส์ รับหน้าที่ สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ ไบรท์ตัน ตามตีเสมอ 1-1 ตอนที่เหลือไม่มีประตูพิ่ม จบเกม เสมอ เชลซี 1-1

 

ไบรท์ตัน : แม็ทธิว ไรอัน – โจเอล เวลท์มัน, เบน ไวท์, ลูอิส ดังก์, อดัม เว็บสเตอร์, ซอลลี่ มาร์ช – สตีเว่น อัลซาเต้, อดัม ลัลลาน่า, อีฟส์ บิสซูม่า – เลอันโดร ตรอสซาร์, นีล โมเปย์ ดูบอลสด

เชลซี : เกปา อริซาบาลาก้า (วิลลี่ กาบายาโร่ น.46) – รีช เจมส์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น (เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า น.46), เจค คล้าร์ก-ซัลเตอร์ (อันโตนิโอ รือดิเกอร์ น.46), มาร์กอส อลอนโซ่ – มัตเตโอ โควาซิช (อีธาน อัมปาดู น.61), เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (ลูอิส เบเกอร์ น.61) – คัลลัม ฮัสสัน โอดอย (ลุค แม็คคอร์มิค น.72), รูเบน ลอฟตัส ชีค, ฮาคิม ซิเย็ค (คอเนอร์ กัลลาเกอร์ น.54) – ติโม แวร์เนอร์ (โอลิวิเยร์ ชิรูด์ น.61)