เปิดฉากสามแต้ม เกมนี้สตาร์ป้ายแดง ต่างได้ออกตัวตัวจริงทั้งสอง
เปิดฉากสามแต้ม เกมที่ เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม เป็นเกมเปิดฉากสนามครั้งแรกของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020-21 ระหว่างเจ้าถิ่น ไบรท์ตัน เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เชลซี แกรม พ็อตเตอร์ เกมนี้มาพร้อมเต็มดูดแนวรุกตีหน้าคู่เป็น เลอันโดร ทรอสซาร์ รวมทั้งนีล โมเปย์ โดยใช้ อดัม ลัลลาน่า มิดฟิลด์ที่พึ่งคว้ามาจาก “ลิเวอร์พูล” รอเคลื่อนเกมกึ่งกลางสนาม
ในเวลาที่ฝั่งของ “สิงห์บลูส์” ของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เปิดฉากแข้งคนใหม่อีกทั้ง ไค ฮาแวร์ทซ์ รวมทั้งติโม แวร์เนอร์ ลงเป็นตัวจริงเกมแรก โดยมี เมสัน เมาน์ท เกื้อหนุนร่วมกับ รูเบน ลอฟตัน-ชีค แล้วก็เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ประเดิมมาครึ่งแรก น.ที่ 5 เจ้าถิ่น ทักก่อนเลยข้างหลัง อดัม เว็บไซต์สเตอร์ เพิ่มขึ้นสูงก่อนส่องด้วยขวานอกกรอบ บอลพุ่งบินคานออกไปไกล
ช่องทางลุ้นหนแรกของกลุ่มเยือน จำเป็นต้องคอยถึง น. 19 เมสัน เมาน์ท เปิดเข้ากึ่งกลางให้ ว่ากล่าวโม แวร์เนอร์ มานะเช็ดถูบอลไปเสาสองแต่ไปไถลแนวรับเจ้าถิ่นก่อนเข้ามือ แม็ทธิว ไรอัน กระนั้นอีก 2 น. ถัดมา “สิงห์บลูส์” มาได้ลูกที่จุดลูกโทษ
ข้างหลังเจ้าถิ่นทำเสียบอลกลางสนามโดน จอร์จินโญ่ พนันบอลให้ ติโม แวร์เนอร์ หลุดเข้าไปสัมผัสหลบ แม็ทธิว ไรอัน ก่อนโดนนายด่านเจ้าถิ่นขวางล้มลงในกรอบ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที ก่อนที่จะ จอร์จินโญ่ จะเป็นมือสังหารซัดจุดลูกโทษเข้าไปไม่พลาดใน น. 23 ให้ เชลซี บุกมานำ 1-0
เจ้าถิ่นข้างหลังเสียประตูบากบั่นโหมบุกเพื่อทวงตีเสมอให้ได้ น. 26 ได้ลุ้นจากจังหวะที่ ทาริก แลมป์ตีย์ ครอสบอลไปเสาแรกให้ นีล โมเปย์ โฉบมากระแทกแต่บอลไปโดนหัวไหลท้ายที่สุดไปเข้ามือ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ผู้สื่อข่าวเปิดเผย
ช่วง 35 สตีเว่น อัลซาเต้ กระชากเข้าหน้ากรอบก่อนตะบันด้วยซ้ายบอลพุ่งไปทิ่มเสาไกลแล้ว แม้กระนั้นยังโดน เกป้า พุ่งปัดออกไป บอลมาเข้าทางปืน ซอลลี่ มาร์ช ซ้ำด้วยซ้ายไปติดบล็อค อันเดรียส คริสเตนเซ่น จังหวะ 45 จำต้องสลับตัวคนแรกข้างหลัง อดัม ลัลลาน่า ห้องเครื่องคนใหม่มีอาการเจ็บเล่นต่อไม่ไหวทำให้ต้องส่ง อารอน คอนนอลลี่ ลงมาเล่นแทน
ตอนทดเจ็บ เปิดฉากสามแต้ม น. 45+2 ติโม แวร์เนอร์ เกือบจะเบิกสกอร์แรกให้สังกัดเดิมใหม่อย่างเป็นทางการ ข้างหลังลากหนีแนวรับเจ้าถิ่นเข้าไปซัดมุมแคบ แต่ว่ายังไปติดเซฟของ เกป้า ที่ปัดออกข้างหลังจวนเจียน
จบครึ่งแรก ตามหลัง 0-1 กลับมาเล่นต่อในช่วงหลัง น. 47 เจ้าของบ้านแทบได้ลุ้นตีเสมอ ซอลลี่ มาร์ช ฉุดกระชากหลบลำแข้งสิงห์บลูส์ก่อนหนีตัวเกาะติดถึงเส้นข้างหลังแล้วครอสไปเสาแรกให้ คอนนอลลี่ เข้าชาร์ทเสาแรกหลุดกรอบไป
เกมรุก เกือบจะแผลงฤทธิ์อีก อีก 2 ตอนถัดมา ทาริก แลมป์ตีย์ สมัยก่อนเด็กปั้นเอง กระชากบอลแหวกอลอนโซ่ และก็เมสัน เมาน์ท เข้าไปซัดด้วยขวาเสาแรกบอลพุ่งแรกไปติด คูร์ท ซูม่า ออกข้างหลัง แต่ว่าแล้ว ช่วง 54 ความพยายาม มาไปถึงเป้าหมายไล่ตีเสมอ 1-1
จากจังหวะที่ ทาริก แลมป์ตีย์ ที่เล่นได้สะดุดตาไหลบอลเข้ากึ่งกลางให้ เลอันโดร ทรอสซาร์ ตะบันด้วยซ้ายเต็มแรงนอกกรอบ บอลพุ่งหนีมือ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ทิ่มโคนเสาสองไปอย่างงดงาม แต่อีก 2 ตอนต่อมา
ช่วง 56 ลูกทีมของแฟร้งค์ แลมพาร์ด มาแซงขึ้นนำ 2-1 จากความยอดเยี่ยมของ รีซ เจมส์ ตัวบุกปีกขวาดาวรุ่ง ที่ซัดเต็มข้อด้วยขวานอกกรอบ บอลพุ่งติดไซด์หนีมือ แม็ทธิว ไรอัน เสียบมุมสามเหลี่ยมจำพวกสวยหยด ห้อย แฮนด์บอล
รอบ 66 มาได้ประตูนำห่างเจ้าของบ้าน 3-1 บอลต่อเนื่องจากจังหวะเตะมุม รีซ เจมส์ เปิดมาให้ คูร์ท ซูม่า ตวัดยิงด้วยขวาหน้ากรอบไปไถล อดัม เว็บสเตอร์ แปลงทางเข้าประตูตนเองไป ก่อนที่จะให้เครดิต ซูม่า เป็นผู้กระทำประตู ดูบอลสด
รอบ 80 ไบรท์ตันได้ลุ้นจากจังหวะที่ อลิเรซ่า ยาฮานบาคช์ หน้าแข้งสำรองที่พึ่งจะลง ผ่านบอลให้ อารอน คอนนอลลี่ แต่บอลยังไม่ผ่านมือ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าของบ้านไล่ไม่ทัน จบเกม ไบรท์ตัน แพ้คาบ้านให้ 1-3
