จบสิ้นตำนาน 5โมเมนต์ที่น่าจำของเมสซี่กับบาร์เซโลน่า

จบสิ้นตำนาน เป็นที่แน่ๆแล้วว่า ลิโอเนล เมสซี่ จัดแจงจบกับ บาร์เซโลน่า ชมรมแรกในอาชีพกิจการค้าลำแข้งของเจ้าตัวล่ำลากลุ่มไปในตอนซัมเมอร์นี้
จบสิ้นตำนาน แล้วก็คาดว่าจะไปเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ กรุงปารีส แซงต์ แชร์กแมง อีกเร็วนี้ๆตลอดเวลา 17 ปี สำหรับการเล่นให้กลุ่มชุดใหญ่ บาร์เซโลน่า ของ เมสซี่ เขาฝากผลงานยอดเยี่ยมไว้ที่ 672 ประตู
แปลงเป็นผู้ที่ทำประตูสูงสุดในประวัติศาสตร์ของกลุ่ม พาทีมบรรลุความสำเร็จจำนวนมากทั้งยังครอบครองแชมป์ ลา ลีกา 10 ยุค, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 4 ยุค แล้วก็ โกขว้าง เดลเรย์ 7 ยุค
วันนี้พวกเราเก็บ 5 โมเมนต์สำคัญที่น่าจำของ เมสซี่ ในสีเสื้อ บาร์เซโลน่า มาฝากกันที่หลังจากนี้เป็นต้นไปมันจะแปลงเป็นตำนานที่ไม่มีผู้ใดจะมาชดเชยได้อีกแล้ว แฮนด์บอล
เมื่อเอ๋ยถึงแนวทางการทำแฮตทริกในชีวิตกิจการค้าลำแข้งของ เมสซี่ นับว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นให้แฟนบอลได้มองเห็นอยู่เป็นประจำ แม้กระนั้นถ้ากล่าวถึงการตะบันแฮตทริกเป็นครั้งแรกในลา ลีกา ประเทศสเปน นับว่าเป็นโมเมนต์ที่น่าจำสูงที่สุดสำหรับเจ้าตัวและก็แฟนบอลอย่างยิ่งจริงๆ
ย้อนไปในเกม “เอล กลาสิหรูหรา” ช่วงวันที่ 10 เดือนมีนาคม 2007 เปลี่ยนเป็นหนึ่งในเกมประวัติความเป็นมาศาสต์ของศูนย์หน้าเลือดฟ้า-ขาว เมื่อเขาสามารถตะบันแฮตทริกแรกในอาชีพกิจการค้าหน้าแข้งใส่คู่แข่งขันตลอดไปอย่าง เรอัล มาดริด ในขณะที่กลุ่มของตนเองเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คนแค่นั้น ก่อนที่จะจบสิ้นลงด้วยผลเสมอด้วยสกอร์ 3-3
นอกจากนั้นแนวทางการทำแฮตทริกในคราวนี้ทำให้เขาเป็นนักฟุตบอลคนแรกตั้งแต่แมื่อ อีบัน ซาโมราโนา สมัยก่อนศูนย์หน้า เรอัลมาดริด ที่ทำแฮตทริกได้ในเกม “เอล กลาสิเก๋” ในช่วงฤดูกาล 1994–95 ซึ่งข้างหลังจบเกมดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วก็ทำให้ เมสซี่ ก็เป็นที่พูดถึงในฐานะนักฟุตบอลดาวรุ่งอายุเพียงแต่ 19 ปี แต่ว่าสามารถทำแฮตทริกได้ในเกมใหญ่
เมื่อกล่าวถึงรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มันเป็นเวทีการแข่งขันชิงชัยเกมระดับชมรมที่ยิ่งใหญ่สุดในโลก รวมทั้งเป็ยเวทีที่ค่อนข้างจะถูกชะตากับ เมสซี่ เป็นอย่างยิ่ง โดยหนึ่งในเกมที่เจ้าตัวสามารถระเบิดฟอร์มชั่วร้ายได้มากที่สุดเป็นกมที่ยิง 4 ประตู พาทีมกระหน่ำ อาร์เซน่อล 4-1 ช่วงวันที่ 6 ม.ย. 2010 ดูบอลสด
จากวันนั้นถึงวันนี้ เมสซี่ ได้แปลงเป็นดาวซัลโวชั้นสองที่ยิงได้มากที่สุดในถ้วยใบโตของยุโรปที่ปริมาณ 120 ปี ประตูด้อยกว่าเพียงแค่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ของ ยูเวนเหม็นตุส แค่นั้น
แนวทางการทำประตูที่ 500 สำหรับในการรับใช้ชมรมเดียวนับว่าเป็นเรื่องที่น่าจำแล้ว แม้กระนั้น เมสซี่ สามารถสร้างโมเมนต์พิเศษมากขึ้นไปอีกเมื่อจำนวนดังที่กล่าวถึงมาแล้วเกิดขึ้นในเกม เอล กลาสิโก้ กับ เรอัล มาดริด โดยเป็นการทำประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษเจ็บพาทีมเอาชนะ “กษัตริย์ชุดขาว” แบบเจ็บแสบ 3-2 ช่วงวันที่ 23 ม.ย. 2017
ภายหลัง เมสซี่ ทำคะแนนดังที่กล่าวถึงมาแล้วได้เขาก็ฉลองด้วยการถอดเสื้อขึ้นมายกซึ่งๆหน้าหน้าแฟนคลับใน ซานตำหนิอาโก้ เบร์ที่นาเบว
บัลลงดอร์ เป็นรางวัลอันมีเกียรติที่นักเตะทุกคนต่างใฝ่ฝันที่จะคว้ามันสักหนึ่งครั้ง แม้กระนั้นกับ ลิโอเนล เมสซี่ เขาเปลี่ยนเป็นลำแข้งที่เปลี่ยนเป็นผู้ครอบครองรางวัลนี้มากมายสุดในประวัติศาสตร์ ภายหลังจาก
ได้คะแนนเสียงให้ครอบครองรางวัลดังกล่าวมาแล้วข้างต้นเป็นยุคที่ 6 เมื่อธันวาคม 2019 ทำให้เขาแซงหน้า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ทำไว้ 5 ครั้ง
การเอารางวัลนักเตะดีเลิศที่ปี 2019 นั้นนับว่าเป็นหนแรกในรอบ 5 ปีนับตั้งแต่ที่เขาทำเป็นได้ปี 2015 รวมทั้งยังคงเป็นนักฟุตบอลรายปัจจุบันที่เอารางวัลดังที่กล่าวมาแล้ว ภายหลังจากการประกาศรางวัลปี 2020 พักนานกี่เดือน
จำเป็นต้องถูกยกเลิกไปด้วยเหตุว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสวัววิด รวมทั้งบังลงดอร์คราวนี้เองได้แปลงเป็นรางวัล อันมีเกียรติหนสุดท้ายที่เขาทำเป็นในสีเสื้อของ บาร์เซโลน่า
ย้อนไปตอนวันที่ 22 ธ.ค. 2020 เมสซี่ ได้สร้างประวัติศาสตร์คนใหม่บนโลกลูกหนังที่ยากจะหาคนใดกันแน่มาทำลาย โน่นเป็นการทำลายสถิติการยิงให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเยอะที่สุดชั่วกับชั่วกัลป์ของ เปเล่ แผงหน้าตำนานชาวบราซิล
ที่ทำไว้กับ ซานโต๊ส ที่ปริมาณ 643 ประตู ภายหลังจากศูนย์หน้าชาวอาร์เจนไตน์ ยิงได้หนึ่งประตูในเกม ลา ลีกา ประเทศสเปน นัดหมายที่ช่วยทำให้ “อาซูลกราน่า” บุกไปชนะ เรอัล บายาโดลิด 3-0 จนกระทั่งทำให้ผลรวมกระบวนการทำประตูให้ บาร์เซโลน่า ของเขาสำหรับในการลงเล่นทุกรายการเพิ่มเป็น 644 ประตูในเวลานั้น
ก่อนหน้านั้น เมสซี่ ครอบครองสถิติดังที่ได้กล่าวมาแล้วร่วมกับ เปเล่ ก่อนจะเป็นเจ้าของสถิติแบบผู้เดียวๆซึ่ง 644 ประตูของเขานั้นมาจากการลงเล่น 749 นัดหมายในทุกรายการ โดยเป็นการยิงใน ลา ลีกา 451 ประตู,